หากเราจะพูดกันตรงๆ แล้ว “พรมแดนระหว่างประเทศ” ก็คงจะเป็นเพียงเส้นแบ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเส้นพรมแดนดังกล่าว บ่อยครั้งก็มักจะกลายเป็นอะไรที่มีความสำคัญมากกว่าเพียงแค่เส้นอยู่เสมอ
นั่นเพราะเส้นแบ่งนี้ไม่เพียงแต่จะแบ่งเขตการปกครองของมนุษย์เท่านั้น แต่บ่อยครั้งมันยังเป็นสิ่งที่แบ่งแยกกฎหมาย นโยบาย หรือแม้แต่แนวคิดของผู้คนด้วย
และเจ้าความแตกต่างนี้เอง ก็ทำให้ในบางครั้ง เส้นเหล่านี้ก็กลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจกว่าที่เราคิดไว้ เหมือนดั่งตัวอย่างเส้นพรมแดนทั้ง 15 ที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ไปชมกันต่อไปนี้
1. เส้นพรมแดนระหว่างเฮติ (ซ้าย) และสาธารณรัฐโดมินิกัน (ขวา)
จะเห็นได้ว่าที่เฮตินั้น มีต้นไม้น้อยว่าโดมินิกันอย่างเห็นได้ชัด จากความแตกต่างของกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
2. เส้นพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกา (ซ้าย) และเม็กซิโก (ขวา)
นี่คือหนึ่งในเส้นพรมแดนที่มีคนเดินทางผ่านมากที่สุดในโลก และแสดงให้เห็นถึงความต่างของปริมาณผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ได้อย่างดี
.
3. เส้นพรมแดนระหว่างอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์
นี่คือเส้นพรมแดนที่ตั้งอยู่สูงขึ้นไปบนเทือกเขาแอลป์ โดยสิ่งก่อสร้างที่เห็นคือศูนย์วิจัยสภาพอากาศในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยพระราชินีแห่งอิตาลีในปี 1893 อีกที
4. เส้นพรมแดนระหว่างบราซิลและโบลิเวีย
นี่คืออีกพรมแดนที่มีความแตกต่างของพื้นที่อย่างเห็นได้ชัด เพราะบราซิล (ซ้าย) ไม่เพียงแต่จะมีประชากรที่หนาแน่นมากกว่าโบลิเวีย (ขวา) เท่านั้น แต่พวกเขายังมีกฎหมายอนุรักษ์ป่าที่ค่อนข้างอ่อนด้วย
5. เส้นพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
นี่คือหนึ่งในเส้นพรมแดนที่เรียกได้ว่าเห็นได้ชัดมากแม้แต่ในอวกาศ เนื่องจากในยามราตรีพื้นที่ส่วนใหญ่ในเกาหลีเหนือจะมืดมิดไม่มีแสงไฟ ซึ่งตรงข้ามกับเกาหลีใต้โดยสิ้นเชิง
6. (อดีต) เส้นพรมแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันตกและตะวันออก (เยอรมนี)
นี่คือเส้นพรมแดนที่เคยถูกแบ่งด้วยกำแพงเบอร์ลินในช่วงสงครามเย็น ซึ่งทำให้ที่นี่มีการใช้หลอดไฟต่างชนิดกัน และร่องรอยของมันก็หลงเหลืออยู่มาถึงปัจจุบันเลย
7. เส้นพรมแดนระหว่างอียิปต์และอิสราเอล
นี่คือพรมแดนระหว่างอียิปต์ (ซ้าย) และอิสราเอล (ขวา) ที่มองเห็นได้ชัดเจนแม้จากอวกาศ เนื่องจากทางอิสราเอลมักมีการใช้ดินในการเกษตรกรรม ในขณะที่อียิปต์มักใช้ที่ดินเลี้ยงสัตว์จนทำให้ดินมีสีต่างกันอย่างที่เห็น
.
8. เส้นพรมแดนระหว่างเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม
นี่คือพรมแดนที่คงจะแปลกตาเอามากๆ สำหรับหลายๆ คนเลย เพราะนี่คือพรมแดนที่มีเพียงแค่เครื่องหมายเท่านั้น ทำให้ร้านบางร้านสามารถให้ลูกค้าหยิบอาหารเดินข้ามประเทศกันเลย
9. เส้นพรมแดนระหว่างนอร์เวย์และสวีเดน
นี่คือเส้นทางการตัดต้นไม้ที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายพรมแดนระหว่างประเทศ ซึ่งถูกใช้ในฐานะของเส้นทางสำหรับนักขับสโนว์โมบิลไปด้วยอยู่บ่อยๆ
10. เส้นพรมแดนระหว่างอินเดียและปากีสถาน
นี่คือเส้นพรมแดนของประเทศที่ถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจนด้วยแสงส่องสว่างจากไฟรักษาความปลอดภัย เกิดเป็นเส้นแสงที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้จากในอวกาศ
11. เส้นพรมแดนระหว่างอาร์เจนตินาและบราซิล
นี่คือเส้นพรมแดนระหว่างประเทศที่ถูกกั้นด้วยน้ำตกขนาดใหญ่ชื่อ “น้ำตกอีกวาซู” โดยมันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งมีแม้แต่จุดชมวิวตั้งไว้ให้นักท่องเที่ยวเลย
12. เส้นพรมแดนระหว่างออสเตรียและสโลวีเนีย
นี่คือเส้นพรมแดนที่ตั้งอยู่สูงขึ้นไปคนภูเขา ซึ่งแทนที่จะใช้กำแพง ที่แห่งนี้จะให้เสาโอเบลิสก์ 2 ต้น ในการแบ่งเขตประเทศอีกที
13. เส้นพรมแดนระหว่างอิรักและอิหร่าน
นี่คือเส้นพรมแดนของประเทศที่สู้รบกันมาเป็นเวลานาน โดยเจ้าเส้นๆ ที่เราเห็นนี้คือ แนวป้องกันทางการทหาร ที่จะมีอยู่มากเป็นพิเศษในช่วงที่อิรักป้องกันเมืองบาสรา ในช่วงยุค 80
14. เส้นพรมแดนระหว่างนครวาติกันและอิตาลี
นี่คือหนึ่งในเส้นพรมแดนที่มีคนเข้าไปเยี่ยมชมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยทางวาติกันและอิตาลีจะแบ่งเขตแดนกันในรูปแบบที่ต่างๆ กันไป แล้วแต่ความสำคัญของพื้นที่
ซึ่งทำให้ในบางที่เราอาจจะเห็นแค่สัญลักษณ์บนหิน ในขณะที่อีกหลายๆ ที่อาจจะถูกเฝ้าระวังอย่างจริงจัง มีทั้งรั้วและกองกำลังเลย
15. เส้นพรมแดนระหว่างสโลวาเกีย ออสเตรีย และฮังการี
นี่คืออีกเส้นพรมแดนสุดแปลกที่ครอบคุม 3 ประเทศ โดยเพียงแค่คุณย้ายมุมโต๊ะนั่งคุณจะ ถือว่าได้เดินทางข้ามประเทศแล้ว ซึ่งพรมแดนเช่นนี้ก็เป็นไปได้ด้วยความสมานฉันท์ของทั้ง 3 ประเทศนั่นเอง
ที่มา boredpanda, interestingengineering
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น