สมัยเด็กๆ เวลาพ่อแม่พาไปสวนสนุก เราก็มักจะได้เล่นพวกเครื่องเล่นมุ้งมิ้ง ที่ไม่หวาดเสียวหรือดูอันตรายจนเกินไป นอกจากม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ แล้วก็มีพวกรถไฟที่จะแล่นเข้าอุโมงค์ที่มีตกแต่งสองข้างทางสวยๆ ทำนองนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องคอยจับตาดูลูกให้ดี เพราะอะไรที่มันเลื่อนๆ เข้าไปในอุโมงค์นั้น มันไม่ใช่ที่สำหรับเด็ก…หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตเสมอไป
เมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม คุณแม่ Edith Vega กับลูกชาย Lorenzo วัย 2 ขวบกำลังจะเดินทางจากสนามบิน Hartsfield–Jackson Atlanta ตั้งอยู่ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา
ในตอนแรกคุณแม่ Edith ก็อุ้มลูกชายของเธอมา แต่เนื่องจากเธอต้องปรินท์ตั๋วเครื่องบินที่ตู้ kiosk ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน Spirit Airlines จึงวางลูกให้ยืนที่พื้นก่อน
การปรินท์ตั๋วเครื่องบินที่ตู้อัตโนมัตินั้นใช้เวลาไม่นานมาก แต่ก็ยังช้ากว่าเด็กวัยกำลังซน เจ้าหนูน้อยฉวยโอกาสตอนที่คุณแม่กำลังง่วนอยู่กับตู้ปรินท์ตั๋ว เดินเตาะแตะไปปีนสายพานวางกระเป๋าหลังเคาน์เตอร์เช็คอิน
ณ เวลานั้นเคาน์เตอร์ยังไม่เปิดทำการจึงไม่มีพนักงานสายการบินอยู่หลังเคาน์เตอร์ ทำให้เด็กชายปีนผ่านเข้าไปแบบสะดวกโยธิน และสายพานก็เป็นแบบทำงานอัตโนมัติเมื่อมีแรงกดที่หนักมากพอวางบนสายพาน
กว่า Edith จะปรินท์ตั๋วเสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นลูกชายเลื่อนหายไปในอุโมงค์สายพานนู่นแล้ว…
เธอเล่าว่า เธอตกใจมาก ใจนึกอยากจะกระโดดขึ้นสายพานแล้วเข้าไปเอาตัวลูกชายออกมา แต่เจ้าหน้าที่ของสนามบินไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปอีกคน เธอจึงต้องพยายามตั้งสติ ใจเย็น และเฝ้ารอ
“ฉันกลัวจนแทบจะบ้าเลย และฉันก็แบบว่า “พระเจ้าช่วย ขอให้ลูกปลอดภัย ขอให้ลูกแค่สนุกกันการนั่งสายพานเล่น”” เธอกล่าว
ราว 5 นาทีต่อมา เด็กชาย Lorenzo ที่ได้นั่งลอดอุโมงค์สายพานกระเป๋าก็ไปโผล่ตรงห้องรับสัมภาระของหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากว่าภายในอุโมงค์สายพานนั้นมีการหักเลี้ยวต่างๆ นานาในระหว่างทางมากมาย พอออกมาสู่แสงสว่าง ตาหนู Lorenzo ก็กระดูกแขนขวาหักกลับมาเป็นของแถม
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยก็พาคุณแม่และลูกชายคู่นี้ไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้เคียง โดยคุณแม่นั้นบอกแค่ว่า แค่ลูกชายยังมีชีวิตอยู่เธอก็ดีใจที่สุดแล้ว และหวังว่าน้อง Lorenzo จะหายดีในเร็วๆ นี้นะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น