ในทุกๆ ปี นักนิเวศวิทยาของสถาบันขั้วโลกนอร์เวย์ (NPI) จะทำการเดินทางไปที่เกาะสวาลบาร์ดในนอร์เวย์ หมู่เกาะธารน้ำแข็งทุนดราที่ตั้งอยู่ระหว่างนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือ เพื่อทำการสำรวจประชากรกวางเรนเดียร์
การสำรวจเช่นนี้ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่นักนิเวศวิทยาจะมีการพบซากกวางเรนเดียร์ที่ตายไปอยู่บ้าง แต่ในการสำรวจปีล่าสุดนี้เองพวกเขากลับพบว่ามีซากกวางเรนเดียร์ตายไปบนเกาะอยู่มากถึง 200 ร่าง
อ้างอิงจากข้อมูลของทีมสำรวจ ซากกวางเรนเดียร์ที่ถูกพบนั้น กว่าครึ่งมีร่องรอยของการอดตาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุณภูมิในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจากภาวะโลกร้อน
นั่นเพราะการที่อุณภูมิในสวาลบาร์ดเพิ่มขึ้นนั้น ทำให้ในช่วงเดือนธันวาคม (ของปีที่แล้ว) เกิดเหตุฝนตกหนักอย่างผิดปกติ ก่อนที่อากาศในพื้นที่จะทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาแข็งตัว เกิดเป็นชั้นน้ำแข็ง บางๆ คลุมพื้นดินไว้ ซึ่งทำให้กวางเรนเดียร์ไม่สามารถเข้าถึงพืชที่เป็นอาหารหลักของพวกมันได้
ด้วยความที่นักสำรวจพบซากกวางเรนเดียร์มากมายขนาดนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่อยแปลกเลยที่เมื่อการสำรวจจบลงพวกเขาจะพบว่าประชากรของกวางเรนเดียร์โดยรวมนั้น ได้ลดลงไปอย่างน่าใจหาย แถม กวางเรนเดียร์ที่ยังมีชีวิตอยู่เองก็อยู่ในสภาพซูบผอมเป็นอย่างมากด้วย
“มันเป็นเรื่องน่ากลัวที่เราต้องพบซากสัตว์สัตว์มากมายขนาดนี้” คุณ Åshild Ønvik Pedersen นักนิเวศวิทยาของ NPI กล่าว
เขาข้อมูลเพิ่มเต็มว่าอาหารของกวางนั้นขาดแคลนถึงขั้นที่ทีมนักสำรวจมีโอกาสพบเห็นกวางเรนเดียร์ไต่เขาไปเล็มหญ้าบนหน้าผา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องอันตรายมากและตามปกติพวกมันจะไม่ทำกัน แถมหลายๆ ตัวยังออกแร่ร่อนจากถิ่นไปไกลขึ้น เพื่อหาอาหารอีกด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความหวาดกลัวให้กับนักสำรวจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าภาวะอุณหภูมิบนโลกจะยังคงพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นกวางเรนเดียร์ในพื้นที่นี้อีกต่อไปแล้วก็ได้
ที่มา livescience, nrk
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น