ย้อนกลับไปในปี 1939 นักโบราณคดีชาวอเมริกันนามว่า Wyllys Andrews IV ได้ทำการค้นพบ แหล่งโบราณคดีของเผ่ามายา ในพื้นที่ใกล้เคียงกับเมืองกังกุน เมืองชายฝั่งทางตะวันออกสุดของประเทศเม็กซิโก
น่าเสียดายที่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างในเวลานั้นแหล่งโบราณคดีแห่งนี้จึงไม่ได้รับการตรวจสอบที่ดีอย่างที่ควรไป และกว่าที่นักโบราณคดีจะมีโอกาสเข้ามาตรวจสอบพื้นที่แห่งนี้อย่างจริงจัง มันก็เมื่อไม่น่ามานี้ โดยกลุ่มนักโบราณคดีจากสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติเม็กซิกันเท่านั้น
โดยภายในการตรวจสอบพื้นที่ในเวลานั้นเอง พวกเขาก็ได้ทำการค้นพบ ราชวังแห่งหนึ่ง ในระหว่างการขุดค้นเมืองโบราณที่ถูกทำลายไปแล้วอย่างคูลูบา และคาดกันว่าอาจจะเคยมีการใช้งาน เมื่อราวๆ 1,000 ปีก่อน
มันมีความกว้างอยู่ที่ราวๆ 55 เมตร ยาว 15 เมตร และสูง 5 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่เอามากๆ ในเวลานั้น แถมจากร่องรอยที่พบ นักโบราณคดียังสันนิษฐานไว้อีกว่าพื้นที่จริงๆ ของราชวังแห่งนี้ ในอดีตอาจจะใหญ่กว่าที่เราเห็นในปัจจุบันอีกด้วย
เมื่อทำการตรวจสอบราชวังอย่างละเอียด พวกเขาก็พบว่าราชวังแห่งนี้ เคยถูกคนเข้ามาอยู่อาศัยในสองช่วงเวลา โดยครั้งแรกเป็นช่วงปลายยุคคลาสสิค (ราวๆ ค.ศ. 600-900) และครั้งที่สองในช่วงปี 850-1050 ซึ่งทั้งสองช่วงเวลาเมืองคูลูบา ไม่ได้เป็นเอกราช
นักโบราณคดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มันมีความเป็นไปได้สูงที่โบราณสถานแห่งนี้จะเคยถูกปิดให้ใช้งานได้เฉพาะโดยเหล่าคนระดับสูงสุดของสังคมเท่านั้น และอาจแสดงให้เห็นถึงทั้งช่วงเวลาเรืองอำนาจ และเสื่อมบารมีของคนเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
น่าเสียดายที่ด้วยขนาดอันใหญ่โตของสิ่งก่อสร้าง ในปัจจุบันทีมนักโบราณคดีจึงยังเหลือพื้นที่อีกมากให้ทำการขุดค้นสำรวจและอนุรักษ์ อ้างอิงจากคำพูดของคุณ Alfredo Barrera หนึ่งในทีมนักโบราณคดีที่ว่า “การทำงานในที่แห่งนี้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
และก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจจะได้ทราบประวัติศาสตร์เพิ่มเติมของเผ่ามายาในอดีต จากการตรวจสอบในครั้งนี้ในอนาคตอันใกล้เลยก็เป็นได้
ที่มา foxnews และ livescience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น