ปัญหาเรื่อง ‘พ่อแม่ไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีน’ กำลังกลายเป็นปัญหาที่จริงจังมากในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐนิวยอร์ก
จากข้อมูลในเว็บไซต์ Buzzfeed News ระบุเอาไว้ว่า มีเด็กที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 26,217 รายในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งก่อนหน้านั้น เด็กๆ เหล่านั้นสามารถเข้าไปอยู่ในโรงเรียน สถานที่สาธารณะ และเดย์แคร์ต่างๆ ได้อย่างอิสระ
จนทำให้เกิดปัญหา ‘โรคหัด’ ระบาดหนักในนิวยอร์กเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
จากปัญหาที่ว่านี้ส่งผลให้รัฐนิวยอร์กตัดสินใจออกกฎหมาย ‘ไม่ให้เด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้าโรงเรียนและเดย์แคร์’ และจะอนุญาตให้กลับเข้ามาเรียนได้ ก็ต่อเมื่อเด็กได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น
การออกกฎหมายนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดในโรงเรียน และเป็นการกระตุ้นให้พ่อแม่พาเด็กไปฉีดวัคซีนอีกด้วย
แต่ทว่าดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาที่เรียกว่า ‘หักดิบ’ จนเกินไป ทำให้เหล่าพ่อแม่ที่ไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีนทั้งหลายถึงกับออกมาประท้วงข้อกฎหมายดังกล่าว!!
เหล่าคุณพ่อคุณแม่กว่าหลายร้อยคน พร้อมเด็กๆ ไปรวมตัวกันที่หน้าที่ว่าการรัฐ และตามสถานที่สาธารณะอื่นๆ อีกมากมาย
พร้อมกับชูป้ายแนวๆ ว่า “ให้ลูกของเราเข้าโรงเรียนเถอะ ลูกของเรามีสุขภาพที่ดี”หรือถ้าเป็นเด็กก็จะถือป้ายว่า “หนูอยากไปโรงเรียน”
ขณะเดียวกันโลกโซเชียลเองก็มีการเคลื่อนไหว เหล่าพ่อแม่ที่ไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีนต่างก็ออกมาโพสต์เรียกร้องให้เด็กๆ ได้เข้าไปเรียนหนังสือ
“นี่คือลูกสาวของฉัน ในวันพรุ่งนี้ควรจะเป็นวันแรกในการไปโรงเรียนอนุบาลของเธอ แต่เราต้องสอนเธอแบบโฮมสคูลแทน”
“คุณโหวตเพื่อให้เธอถูกห้ามไม่ให้ไปโรงเรียน เพียงเพราะความเชื่อทางศาสนาของเรา แล้วแบบนี้จะเรียกว่า ‘ความยุติธรรมทางสังคม’ ได้อย่างไร เมื่อคุณยังแบ่งแยกแบบนี้”
ภาพของผู้ว่าการรัฐ พร้อมกับคำพูดว่า “ผมคิดว่าจะกักกันเด็ก 26,000 คนให้ห่างจากโรงเรียน เพราะผมเกลียดพระเจ้า”
“ภาพมันบอกทุกอย่างแล้ว เด็กเหล่านี้ไม่ควรจะถูกหวาดกลัว เธอไม่ได้แพร่เชื้อโรค อิสรภาพทางการศึกษาและความเชื่อ ไม่ใช่สิทธิพิเศษของคนบางกลุ่ม แต่เป็นสิทธิ์ของทุกคน!!”
ที่มา : okezone, boredpanda
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น