CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

เป็นไปได้? หนุ่มโปรแกรมเมอร์โชว์วิธี ‘ก็อป-วาง’ ภาพถ่ายจากมือถือลงคอมแบบง๊ายง่าย

สำหรับสายงานดีไซน์เนอร์นักออกแบบ ศิลปิน หรือช่างภาพคงจะเคยนึกถึงความมหัศจรรย์ที่ว่ามันคงจะดีหากเราสามารถถ่ายภาพบางสิ่งแล้วนำไปแปะลงงานตัดต่อในโฟโตชอปได้ทันที น่าจะสะดวกกับชีวิตการทำงานมากขึ้นแน่ๆ แต่มันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้หรอก…

 

https://twitter.com/cyrildiagne/status/1256916982764646402

 

แต่สำหรับ Cyril Diagne ผู้เป็นทั้งศิลปิน ดีไซน์เนอณ์ และโปรแกรมเมอร์ ได้เนรมิตสิ่งที่หลายคนวาดฝันเอาไว้เป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าขึ้นมาอีกขึ้นแล้ว

ด้วยการนำข้อดีของเทคโนโลยี AR ผนวกกับเทคโนโลยีการเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์ (ML หรือ AI) นั่นจึงทำให้เกิดฟังก์ชั่น ‘ก็อป-วาง’ วัตถุจากภาพถ่ายในชีวิตจริงเอามาวางแปะในโฟโตชอปได้ด้วยการใช้สมารท์โฟน!!

 

เมื่อมีคลิปเปิดเผยความว้าวนี้ออกมา แม้แต่ทางบริษัท Adobe เองยังแทบไม่เชื่อสายตาเลย…

 

มันอาจจะเป็นคลิปที่ถูกตัดต่อมาอีกทีนึงเหมือนอย่างในคลิปไวรัลที่ทำกันในแอป TikTok หรือ Instagram อาจจะมาเป็นมุกเมษาหน้าโง่รึเปล่า…

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Cyril ได้เปิดเผยข้อมูลโค้ดต่างๆ ไว้บนเว็บไซต์ GitHub ด้วย พร้อมกับคำอธิบายว่ามันเป็นต้นแบบโค้ดของระบบ AR กับ ML ที่จะช่วยในการตัดวัตถุต่างๆ ออกจากรอบตัววัตถุที่ต้องการ

และสามารถนำภาพถ่ายนั้นไปวางไว้บนซอฟต์แวร์ตัดต่อภาพได้ทันที (เบื้องต้นใช้งานกับโฟโต้ชอปได้ แต่ก็น่าจะนำไปปรับใช้กับซอฟต์แวร์ตัวอื่นได้เหมือนกัน)

 

 

สำหรับเคล็ดลับของวิธีการสุดว้าวนี้ เขากล่าวว่าเป็นผลของระบบการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า BASNet ที่มีความสามารถในการจดจำและตัดวัตถุอื่นๆ ออกจากจุดโฟกัสในภาพถ่ายได้อัตโนมัติ ซึ่งมันจะทำหน้าที่ในการก็อปปี้ภาพถ่ายออกมา

 

 

และเมื่อนำมาผนวกกับแอปที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนต้นแบบ ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็นใช้เวลาประมาณ 2.5 วินาที ในการประมวลผลบนโทรศัพท์เพื่อตัดวัตถุออกมาจากภาพถ่าย และอีก 4 วินาทีในการวางวัตถุลงไปในโปรแกรมโฟโตชอป

 

มีคนลองนำโค้ดไปดัดแปลงใช้งานกับแอปตัวอื่นได้เหมือนกัน

https://twitter.com/matthieurouif/status/1256968728153141249

 

อย่างไรก็ดี ชุดโค้ดข้างต้นที่เผยแพร่มานั้นยังเป็นเพียงต้นแบบเพื่อการศึกษาเท่านั้น ยังไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่นมากไปกว่านั้น

 

ที่มา: @cyrildiagne, github


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น