CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

นักวิทย์ขำ โดนระบบเซ็นเซอร์คำว่า “กระดูก” ในสัมมนา “สัตว์โบราณที่มีกระดูกสันหลัง”

สำหรับการประชุมหรือการสัมมนาที่เป็นทางการ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่บ่อยครั้งผู้จัดงานจะต้องมีการควบคุมการใช้คำของผู้เข้ารวม เพื่อไม่ให้มีคำหยาบคาย ซึ่งในบางครั้งก็สามารถปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโปรแกรมอัตโนมัติได้

อย่างไรก็ตามภายในงานสัมมนาของสมาคมสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีกระดูกสันหลัง (Society of Vertebrate Paleontology) หรือ SVP เราก็ต้องพบกับเรื่องชวนขำเข้าจนได้

นั่นเพราะระบบของการสัมมนาในครั้งนี้ดันเซ็นเซอร์คำว่า “Bone” (กระดูก) เสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ที่เป็นการสัมมนาเกี่ยวกับ สัตว์โบราณ “ที่มีกระดูกสันหลัง” แท้ๆ

 

 

โดยความผิดพลาดในครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่การสัมมนา SVP ประจำปี 2020 ต้องถูกจัดแบบงานสัมมนาเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากโรคโควิด-19

ดังนั้นทางทีมงานจึงถูกขอให้ส่งคำถามที่ต้องการคำตอบในรูปแบบการเขียน เพื่อป้องกันคำถามหรือคำที่ไม่เหมาะสม แต่แทนที่ระบบจะแบนเพียงแค่คำหยาบจริงๆ ตามปกติ มันกลับแบนคำอื่นๆ หลายๆ คำไปด้วย

เช่นคำว่า “hell”, “bone”, “ass”, “pubis”, “sexual”, “crack”, “damn” และ “beaver”

 

 

แน่นอนว่าคำที่โดนแบนไปนั้น ล้วนแต่จะเป็นคำที่อาจถูกใช้ในความหมายเชิงหยาบได้ เช่น Bone สามารถแปลว่าอวัยวะเพศชาย หรือการร่วมเพศได้ ในขณะที่คำว่า Hell (นรก) ที่อาจใช้เป็นคำสบถ

แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นคำที่นักบรรพชีวินจำเป็นต้องใช้ หรือเป็นชื่อสถานที่ที่ตรวจพบฟอสซิลโบราณบ่อยๆ (อย่าง Hell Creek เป็นต้น)

 

แนวหิน “Hell Creek” แหล่งค้นหาซากฟอสซิลมีชื่อของสหรัฐอเมริกา

 

อ้างอิงจากคุณ Stephanie Drumheller ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ว่าจะมาจากการที่ทีมผู้ดูแลใช้โปรแกรมสำหรับการประชุมสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรม แทนที่จะเป็นโปรแกรมสำหรับการประชุมแบบเฉพาะ

และแม้สิ่งที่เกิดขึ้น จะสร้างความไม่สะดวกอยู่บ้างก็ตาม ทางผู้เข้าร่วมงานก็ระบุว่าพวกเขารู้สึกตลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเสียมากกว่า และมันก็เป็นอะไรที่สนุกมากที่พวกเขาจะต้องหาทางแก้ปัญหานี้แบบเฉพาะหน้า

อย่างการที่หนึ่งในนักบรรพชีวินตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชื่อ Hell Creek เป็น Heck Creek หรือการหรือความพยายามในการหาคำมาแทนคำว่า “Pubis bones with cracks” (กระดูกหัวหน่าวที่มีรอยแตก) นั่นเอง

 

หนึ่งในผู้เข้าร่วมจากประชุมซึ่งทำเอกสารร่วมคำที่ถูกแบนโดยโปรแกรมขึ้น

 

ที่มา iflscience และ reddit


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น