เหมือนโลกกำลังบอกเป็นลางอะไรบางอย่าง เมื่อปรากฎการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกนั้นอาจไม่เคยเกิดมาก่อนหรือเกิดเป็นปกติแต่มาไวกว่าเวลาในแต่ละรอบปี เช่นเดียวกับเหตุการณ์ค้างคาวบุกเมืองในออสเตรเลียแห่งนี้
สถานการณ์ในเมือง Ingham รัฐควีนส์แลนด์กำลังประสบปัญหาขั้นวิกฤต เนื่องจากฝูงค้างคาวผลไม้จำนวนมหาศาลบินบุกเข้ามาในเขตเมืองเมื่อเดือนที่ผ่านมา จำนวนคร่าวๆ ก็อยู่ที่ประมาณ 300,000 ตัว
เหตุการณ์ในครั้งนี้ย่ำแย่จนถึงขนาดที่ว่าเด็กๆ กลัวการเดินทางไปโรงเรียน และเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยกู้ภัยไม่สามารถลงจอดบนโรงพยาบาลท้องถิ่นได้
เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดบนโรงพยาบาลได้
สำหรับฝูงค้างคาวผลไม้เหล่านี้มีจำนวนมากกว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลายเท่า และไม่ใช่เพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้นเพราะมีค้างคาวสายพันธุ์อื่นๆ ปะปนมาด้วย
.
.
ข้อมูลเบื้องต้นจากคนในท้องถิ่นระบุว่ามีค้างคาวอย่างน้อยๆ 4 สายพันธุ์ปะปนกัน และพวกมันก็จะมีช่วงเวลาผสมพันธุ์ที่ต่างกัน
จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้ทางการทำการแก้ปัญหาเหล่านี้ แถมชาวบ้านจะแก้ปัญหาเองไม่ได้เนื่องจากค้างคาวเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมายอีกต่างหาก
หนึ่งในเด็กชายโดนค้างคาวที่ตกลงมาจากต้นไม้ข่วนเข้า
เด็กนักเรียนในโรงเรียน Ingham State School เริ่มกลัวการเดินทางไปโรงเรียน เพราะมีค้างคาวจำนวนมากบินมาเกาะต้นไม้ในโรงเรียน เพื่ออิงอาศัยเป็นบ้านพักของพวกมัน
นอกจากนั้นแล้วด้วยชื่อเสียงของค้างคาวที่เป็นพาหะของโรคร้ายแรง สามารถนำมาติดสู่คนได้ด้วยการข่วนหรือกัด ก็ยิ่งทำให้เด็กๆ ไม่อยากเสี่ยงไปโรงเรียน
ต้นไม้ถูกโค่นเนื่องจากรับน้ำหนักค้างคาวที่มาเกาะไม่ไหว
โชคร้ายซ้ำหนักทางการไม่สามารถจัดการแก้ไขอะไรได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ยากมากในการกำจัดโดยเฉพาะจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ยังไม่รวมถึงปัญหาด้านเสียงรบกวนและสุขอนามัยที่ย่ำแย่จากมูลค้างคาวอีก
ทุกคนทำได้เพียงแค่รอเวลาให้ค้างคาวบินย้ายถิ่นฐานออกไปเอง โดยทางผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายน
ในขณะที่ชาวบ้านต่างบ่นและแจ้งไปให้ทางการรับทราบประกอบกับโรคระบาดที่อาจแฝงมาในค้างคาว ผู้เชี่ยวชาญสัตว์เตือนว่าค้างคาวยังมีบทบาทสำคัญในการดำรงสมดุลในธรรมชาติ หากถูกกำจัดจนหมดจะยิ่งทำให้แย่กว่าเดิม
ค้างคาวบางส่วนตายเนื่องจากอากาศร้อนในออสเตรเลีย
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น