ว่ากันด้วยเรื่องของความรู้เฉพาะทางและคุณลักษณะของวิชาชีพนั้นๆ การจะกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องเฉพาะทางจะต้องเป็นผู้ที่เรียนจบทางด้านนั้นจริงๆ เพื่อให้มีความถูกต้องและมีความชำนาญ และจะต้องมีการรับรองที่ถูกต้องจากหน่วยงานด้วย
และเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรังสีแพทย์ ที่เพิ่งจะผุดเป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 หลังจากทางเพจ Beat your limit หรือคุณญาดายูทูบเบอร์ให้ความรู้สายสุขภาพ
เธอได้ออกมาโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ระบุเกี่ยวกับการจะได้เรียนรู้วิชาอ่าน MRI โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรียนจบเฉพาะด้านแต่อ่าน MRI ได้ (การวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องตรวจด้วยสนามแม่เหล็กแรงสูง)
https://www.facebook.com/beatyourlimitthailand/posts/2693075687597508
“เพื่อนๆเชื่อไหมคะว่าญาดาไม่ชอบเรียนหนังสือเลย สาเหตุก็เพราะไม่อยากโดนบังคับให้ต้องเรียนในสิ่งที่ไม่อยากเรียน
.
ตอนที่ญาดาเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพ ญาดาก็เลือกที่จะศึกษาเฉพาะในสิ่งที่เราชอบ อะไรที่เราไม่ชอบเราก็จะไม่อ่านมัน สาเหตุก็เพราะอะไรที่เราไม่อิน เราจะไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับมันด้วย
.
และอีกอย่างญาดาไม่ได้คิดว่าเราจะศึกษาเพื่อจะไปเป็นหมอรักษาใคร เพราะญาดาคิดว่าทุกวันนี้ที่เราทำเพจ และแชร์เรื่องสุขภาพให้ลูกเพจของเราฟังเข้าใจก็มีความสุขมากแล้ว
.
แต่ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไปเมื่อได้มาเจอ “ศ.นพ.ดร.วิชัย เอกทักษิณ” ญาดาเจออาจารย์วันแรกวันที่ ๒๖ พ.ย. ๒๕๖๒ หลังจากที่กลับจากค่ายธรรมชาติบำบัดของหมอเจคอบ (Fruit Fasting) คุณหมอเจคอบก็พาญาดามาเจอหมอวิชัย หลังจากวันนั้นญาดาก็ฝากตัวเป็นศิษย์ใหม่ของอาจารย์
.
จนมาถึงวันนี้อาจารย์บอกกับญาดาว่าจะสอนวิธีการอ่าน MRI ให้ และจะปั้นให้เป็นเด็กคนแรกที่ไม่ต้องจบหมอแต่อ่าน MRI เป็น!!!
.
ทุกวันนี้ถ้าญาดาว่างจากงานตัดต่อคลิป ก็จะไปหาหมอวิชัย ไปช่วยหมอตรวจคนไข้และไปอัดคลิปเพื่อเอาความรู้ดีๆมาแชร์ให้กับทุกคน บอกเลยว่าช่วงนี้ญาดายุ่งมากจนทำงานอะไรไม่ทันซักอย่างเลย และญาดาก็นอนดึกหลายวันติดต่อกันแล้วด้วย
.
แต่ญาดารู้หน้าที่ของตัวเองว่าเราเกิดมาชาตินี้เพื่อมาทำอะไร และเราจะกลายเป็นคนแบบไหนต่อไปในอนาคต ภาพเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาในหัวของญาดาซักพักนึงแล้วค่ะ
.
ต่อไปเพื่อนๆจะได้เห็นพัฒนาการและความสามารถใหม่ของญาดา ที่ถูกถ่ายทอดต่อออกมาจากหมอวิชัย ญาดาจะตั้งใจเรียนและจะนำความรู้นี้ไปใช้อย่างมีคุณธรรม ให้เหมือนกับที่อาจารย์ของญาดาเป็นทุกประการ…… #วันนี้เราเป็นศิษย์มีครูแล้วนะรู้ยัง #อาจารย์ของเราชื่อหมอวิชัยค่ะ ☺️”
จากรายละเอียดข้างต้นเป็นการโพสต์มาตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2563 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ชาวเน็ตบางส่วนเริ่มตั้งคำถามกับประเด็นนี้ ในเมื่อความรู้เฉพาะด้านเช่นนี้จำเป็นจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ หากกระทำเช่นนี้อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้
.
รวมไปถึงการตั้งคำถามถึงอาจารย์หมอท่านดังกล่าวที่ถูกอ้างชื่อ กลับไม่มีชื่อในระบบของแพทยสภาทั้งไทยและญี่ปุ่น
.
.
หลังจากที่เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาเริ่มลุกลามใหญ่โต ไม่มีการชี้แจงเบื้องต้นจากเพจต้นทาง ในส่วนของ ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย จึงได้ออกมาโพสต์ผ่านเพจทางการเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นของหลักวิชาชีพ
https://www.facebook.com/1261271277325610/posts/2933841270068594/?d=n
“ตามที่มีกระแสข่าวในสื่อสังคม (social media) เรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ขอยืนยันเบื้องต้นว่า
๑. การคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยภาพรังสีเต้านม (mammography หรือ mammogram) ถือว่าเป็นการตรวจคัดกรองมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับในเวชปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานและแพร่หลายทั่วโลก มีข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ถึงประโยชน์ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า อย่างเพียงพอ
๒. การวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องตรวจด้วยสนามแม่เหล็กแรงสูง (Magnetic Resonance Imaging หรือ MRI) ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญ ซึ่งราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้รับอำนาจหน้าที่จากแพทยสภา ในการฝึกอบรมและสอบ เพื่อให้เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญดังกล่าว
ทั้งนี้เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนที่อาจจะเห็นกระแสข่าวดังกล่าว
ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย”
จนในที่สุดแล้วในเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน คุณญาดาได้ออกมาโพสต์คลิปเพื่อแสดงคำขอโทษจากประเด็นที่เกิดขึ้น
โดยเธอยอมรับว่านำเสนอข้อมูลเปรียบเหมือนกับตัวเองเป็นหมอทั้งๆ ที่ไม่ใช่ จนส่งผลกระทบหลายฝ่ายทั้งแพทยสภา หมอที่ถูกกล่าวอ้าง พยาบาล และโรงพยาบาล ด้วยการลบคลิปที่เป็นปัญหาออก คุณญาดาขอโทษทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะคุณหมอวิชัยที่สร้างผลกระทบกับอาจารย์
https://www.facebook.com/beatyourlimitthailand/videos/740364696707240/
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น