ตามปกติแล้วคนเราจะปฏิบัติตัวหลีกเลี่ยงภัยอันตรายให้มากที่สุด ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญและองค์กรต่างแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน แยกตัวเองออกจากสังคม เว้นระยะห่างต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่สำหรับ Stephan von Dassel นายกเทศมนตรีกรุงเบอร์ลินกลับทำในสิ่งตรงกันข้าม เพราะเขาจงใจทำให้ตัวเองติดเชื้อไวรัสด้วยแนวคิดที่ว่าร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันต้านมันได้
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นประเด็นร้อนในประเทศเยอรมนี หลังจากที่ท่านนายกเทศมนตรีติดเชื้อจากภรรยาของเขา และยังคงเข้าสำนักงานทำงานตามปกติในขณะที่คนอื่นๆ ลาป่วยกันหมด
ภายหลังจากที่ตัวเขาติดเชื้อแล้ว การกระทำดังกล่าวทำให้เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะอาการป่วยมันแย่มากเป็นนานไม่มีทีท่าว่าจะหายป่วยง่ายๆ ยอมรับกับสื่อว่าประเมินไวรัสตัวนี้ต่ำเกินไป และเขาไม่ได้ตั้งใจติดแต่ใช้คำว่า “เกือบ”
“ผมป่วยนานกว่าที่คิด ผมติดเชื้อจากความที่เกือบจงใจเพื่อที่จะมีภูมิต้านทานกับมัน คิดว่าน่าจะป่วยเล็กน้อยประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นก็จะมีภูมิต้านทาน แต่มันแย่กว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก”
จากคำให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมันข้างต้น ก็กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตกล่าวหาว่าเขาไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สนใจปฏิบัติตามคำแนะนำช่วงเชื้อไวรัสแพร่ระบาดและทำให้สังคมต้องแบกรับความเสี่ยง
ท่านนายกเทศมนตรีจึงออกมาปกป้องตัวเองภายหลัง โดยระบุว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่ตรงตามที่ต้องการจะสื่อและมีการตีความผิดๆ โดยสื่อมวลชน
Vielleicht war meine Äußerung im Radio heute missverständlich. Aber mein Handeln war und ist verantwortungsvoll. Ich war, bin und bleibe solange in Quarantäne, bis ich niemanden mehr anstecken kann. https://t.co/EFDNMrWffd
— Stephan von Dassel (@DasselVon) April 1, 2020
“การให้สัมภาษณ์ของผมผ่านวิทยุนั้นถูกตีความคลาดเคลื่อนไป แต่พฤติกรรมของผมนั้นมีความรับผิดชอบมากพอ และผมยังคงกักตัวเองอยู่ จนกว่าจะหายติดเชื้อ”
อย่างไรก็ดีทางหน่วยงานกรุงเบอร์ลินระบุว่า นายกเทศมนตรีกักตัวเอง 14 วันหลังจากที่รู้ว่าภรรยาติดเชื้อ และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนที่ติดเชื้อแบบนั้น จนตัวเองต้องติดเชื้อตามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากอยู่แล้ว
ที่มา: dw, nypost, dailytimes
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น