หากกล่าวถึงชื่อของ Billie Eilish เชื่อว่าหลายคนต้องคิดถึงบทเพลงอันแสนจะลึกล้ำ การแต่งตัวที่แสนจะเท่บ้า และสีผมอันแสนจะเปรี้ยวจี๊ดอย่างแน่นอน
อย่างที่เราทราบกันว่าน้องบิลลี่เป็นหนึ่งในศิลปินที่มาแรงมากๆ ในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ ซึ่งเธอสร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินอายุน้อยที่ทำลายสถิติและคว้ารางวัลมากมายมาครองได้
แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็คือเบื้องหลังชีวิตของน้องบิลลี่ที่เคยเผชิญหน้ากับอาการป่วยทั้งทางจิตใจและร่างกาย รวมถึงความกลัวมากมายที่ถาโถมเข้ามา
วันนี้ #เหมียวนานะ เลยอยากจะมาเปิดชีวิตของเธอในด้านนี้ให้ทุกคนได้เห็นกันว่าเด็กสาววัย 19 ปีคนนี้เข้มแข็งแค่ไหน และเธอผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาได้อย่างไร
อันที่จริงนักร้องไม่ใช่ความฝันแรกเริ่มของน้องบิลลี่ แต่การเป็นแดนเซอร์ต่างหากที่เป็นความฝันที่เธอต้องการจริงๆ แต่ในช่วงเวลาหนึ่งเธอฝึกซ้อมตัวเองอย่างหนักหน่วงก่อนการแข่งขันที่จะมาถึง
จึงทำให้เธอเกิดอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าและไม่สามารถกลับมาเต้นในแบบที่เคยได้อีก ด้วยเหตุนี้สิ่งเดียวที่พาให้เธอก้าวผ่านช่วงเวลาที่ความฝันของตัวเองล่มสลายได้ก็คือ ‘ดนตรี‘ นั่นเอง
จากนั้นก็อย่างที่เราเห็นกันว่าน้องบิลลี่ไปได้ดีในวงการนี้เอามากๆ และเธอก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น
แต่เมื่อแสงสปอร์ตไลท์ส่องลงมาแล้ว แน่นอนว่าน้องบิลลี่ต้องกลายเป็นที่จับตามองในหลายๆ ด้าน และเธอก็เริ่มได้รับคำวิพากวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกๆ ระหว่างการให้สัมภาษณ์
อย่างเช่น การกลอกตา การยักไหล่ ขมวดคิ้ว และอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีบางส่วนมองว่ามันไม่ถูกกาลเทศะและไม่มีมารยาท
แต่สุดท้ายน้องบิลลี่ก็ออกมาเปิดเผยสิ่งที่แท้จริงบนอินสตาแกรมว่า ตนเป็นโรคทูเร็ตต์ (Tourette Syndrome) โรคที่สมองสั่งให้ร่างกายเคลื่อนไหวแบบไม่ได้ตั้งใจ โดยเธอเป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบแล้ว
ถึงแม้ว่าโรคนี้จะไม่ได้ร้ายแรงมากนัก แต่น้องบิลลี่ต้องเผชิญกับ Tics Attack เป็นอาการกระตุกของกล้ามเนื้อที่อาจจะเกิดขึ้นติดต่อกันยาวนาน จนรบกวนชีวิตของเธอเองในบางครั้ง
อีกหนึ่งปัญหาที่เจ้าน้องบิลต้องพบเจอคืออาการนอนไม่หลับ เพราะเธอต้องรับมือกับอาการผีอำ (Sleep Paralysis) ที่ทำให้เธอขยับไม่ได้ขณะหลับ และอาการฝันร้าย (Night Terror) ที่ทำให้เธอต้องกรีดร้องกลางดึก
เธอเคยฝันร้ายเรื่องเดิมๆ ติดต่อกันถึง 2 เดือน มันส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและการมองโลก จนเธอต้องแต่งเพลง “When We All Fall Asleep, Where Do We Go?” ขึ้นมาเพื่อพูดถึงความรู้สึกของเธอในช่วงเวลานอน
ปัญหาภาวะซึมเศร้า (Depression) ก็คืออีกปัญหาที่เรารู้กันดีว่าน้องบิลลี่ต้องเผชิญกับมันมาตลอด เธอเกลียดตัวเองมากๆ และไม่อยากเป็นตัวเองอีก จนเกิดบทเพลง “idontwannabeyouanymore” ขึ้นมา
นอกจากนี้เธอยังต้องเผชิญหน้ากับการเกลียดรูปร่างหน้าตาตัวเอง หรือโรค Body Dysmorphic Disorder (BDD) ที่ทำให้เธอไม่อยากส่องกระจกมองตัวเอง ในช่วงที่เธออายุแค่เพียง 13 ปี
สิ่งเหล่านี้ถูกกระตุ้นขึ้นง่ายดายเอามากๆ อย่างมีครั้งหนึ่งที่ภาพน้องบิลลี่สวมเสื้อกล้ามสีขาว จนทำให้เกิดการวิจารณ์หน้าอกของเธอกันอย่างกว้างขวางบนโซเชียล
ในตอนนั้นเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ทำให้เธอไม่มั่นใจและเกลียดการถูกจับตามอง ถึงขนาดที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า
“ฉันเพิ่งรู้ว่า จริงๆ แล้วการมีชื่อเสียงมันน่าผิดหวังมาก มีหลายครั้งเหมือนกันที่ฉันรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเอาเสียเลย”
ความเปราะบาง ความเกลียดชังและความเจ็บปวดของเด็กสาวคนนี้ ผลักดันให้เธอใช้ชีวิตมาถึงอายุ 19 ปี ซึ่งน้องบิลลี่ในวัย 19 นั้นสดใสมากขึ้นและกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ทั้งนี้ เธอยังเลือกให้กำลังใจแฟนคลับทุกคนผ่านบทเพลงมากมายที่ปลอบประโลมทั้งตัวเธอและเหล่าแฟนคลับ เรียกได้ว่าเด็กสาววัย 19 ปีคนนี้เข้มแข็งเกินอายุจริงๆ ค่ะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น