‘ขยะพลาสติก’ ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ยังคงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบนโลกของเราอย่างรุนแรง และหลายประเทศก็พยายามช่วยกันแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น การงดใช้ถุงพลาสติกในปัจจุบัน
นอกจากถุงพลาสติกแล้ว ขวดน้ำพลาสติกเองก็ถือว่าเป็นขยะที่เราพบได้บ่อยมาก ซึ่งมันก็มักจะกลายไปเป็นขยะที่ทับถมก่อผลเสียต่อธรรมชาติ เพราะกว่าที่จะย่อยสลายตามธรรมชาติได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปี
และจากเหตุผลข้างต้นนั้นเองที่ทำให้ 2 บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่าง Coca-Cola และ Carlsberg กำลังให้ความสนใจกับการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ หันไปใช้ “ขวดพลาสติกชีวภาพ” ที่สามารถย่อยสลายได้ใน 1 ปี!!
ทั้งสองบริษัทดังกล่าวนั้นถือเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโครงการการพัฒนาขวดพลาสติกชีวภาพของทางบริษัท Avantium บริษัททางด้านชีวเคมี
Avantium ได้คิดค้นการผลิตขวดพลาสติกชีวภาพจากพืชน้ำตาล (เช่น ข้าวโพด บีท เป็นต้น) แทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
และไม่ใช่แค่กระบวนการการผลิต เพราะขวดพลาสติกที่พวกเขากำลังพัฒนาอยู่นี้มีความสามารถในการย่อยสลายที่รวดเร็ว มากกว่าขวดพลาสติกที่เราเห็นกันอยู่ทั่วๆ ไปในตอนนี้
พวกเขาบอกว่าหากใช้เครื่องกำจัดขยะ ขวดพลาสติกของพวกเขาก็สามารถย่อยสลายได้ภายใน 1 ปี หรือหากปล่อยให้มันย่อยสลายเองตามธรรมชาติ ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น
และการันตีว่ามันมีความทนทานมากพอที่จะรองรับเครื่องดื่มอย่างน้ำอัดลมหรือเบียร์
Tom van Aken ผู้บริหารระดับสูงของทางบริษัทกล่าวว่า…
“พลาสติกที่เราผลิตขึ้นมานี้คือนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพราะไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และที่สำคัญคือความสามารถในการย่อยสลายที่เหนือกว่าพลาสติกทั่วๆ ไปหลายเท่า”
โดยจากการคาดการณ์นั้น ในปี 2023 เราก็จะได้เห็นเครื่องดื่มชื่อดังวางขายด้วยบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกชีวภาพตัวนี้กันแล้วล่ะนะ
สำหรับปัญหาขยะพลาสติก จากสถิติข้อมูลของ Surfers Against Sewage ระบุว่า ในปี 1950 ประชากรทั่วโลกอยู่ที่ 2,500 ล้านคน มีการผลิตพลาสติกที่ราวๆ 1,500,000 ตัน
ในปี 2016 ประชากรทั่วโลกมากกว่า 7,000 ล้านคน มีการผลิตพลาสติกมากกว่า 320,000,000 ตัน และจากการคำนวณ ในปี 2034 จำนวนการผลิตพลาสติกนั้นก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
แล้วลองคิดดูว่าเกือบทั้งหมดที่ถูกผลิตมาจะต้องกลายเป็นขยะที่ถับถมกันไป ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการย่อยสลาย อย่างนั้นแล้วมันจะส่งผลเสียต่อโลกของเราได้ขนาดไหนกันนะ?
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: TheGuardian , Unilad
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น