ประเทศไทยของเรามีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ได้รับการยกย่องเชิดชูไปทั้งโลก ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก แต่ในขณะที่ประเทศอื่นๆ นั้นกลับต้องเจอกับค่าใช้จ่ายที่สูงจนแทบไม่อยากจะป่วยกันเลยล่ะ…
จากข้อมูลการเก็บสถิติในปี 2016 นั้นเผยให้เห็นว่าชาวอเมริกันจะมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อคนอยู่ที่ราวๆ 10,348 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 314,000 บาทต่อปี ถือว่าเป็นตัวเลขที่ทิ้งห่างป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่น (ข้อมูลจาก healthsystemtracker)
คุณคิดว่าเรียกรถพยาบาลแต่ละครั้งในอเมริกา จะต้องจ่ายเท่าไหร่?
ผมเดาว่า 0 ครับ
ไม่ครับ คุณต้องจ่ายครั้งละ 2,500 ดอลลาร์ (75,000 บาท)
แม้แต่คนในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหราชอาณาจักร เมื่อได้รู้ความจริงแล้วก็ถึงกับอึ้งเหมือนกัน เพราะพวกเขามีบริการสุขภาพแห่งชาติ NHS อยู่ แต่ไม่ถึงกับต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากขนาดนั้นต่อการรับการรักษาหนึ่งครั้ง
ค่ากระบอกฉีดอิพิเนฟรินสองชิ้น คุณคิดว่าราคาเท่าไหร่?
เดาว่า 80 ดอลลาร์ (2,400 บาท)
ความจริงคือ 600 ดอลลาร์ครับ (18,000 บาท)
ความรู้สึกประหลาดใจเหล่านี้เผยแพร่ผ่านทางช่องยูทูป PoliticsJOE เมื่อทางช่องได้ออกไปสัมภาษณ์และให้ชาวอังกฤษลองเดาค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของชาวอเมริกัน อย่างการรับบริการทางการแพทย์พื้นฐานต่างๆ ต้องจ่ายเงินครั้งละเท่าไหร่?
เรียกรถพยาบาลในอเมริกาจะต้องจ่ายเท่าไหร่?
เอ่อ ผมว่าน่าจะสัก 100 หรือ 200 ดอลลาร์นะครับ
พอรู้ว่าต้องจ่ายครั้งละ 2,500 ดอลลาร์ หน้าพี่แกก็อึ้งใช่เล่นเลย
ส่วนใหญ่แล้วคาดเดาตัวเลขจำนวนที่ไม่สูงมากนัก แต่ปรากฎว่าในความเป็นจริงค่าใช้จ่ายเพื่อรับบริการทางการแพทย์พื้นฐานอย่างต่ำๆ ก็อยู่ที่หลักร้อยดอลลาร์แล้ว
คลอดลูกล่ะ? จะต้องจ่ายเท่าไหร่?
ร้อยสองร้อยดอลมั้งคะ?
เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ครับ (300,000 บาท) อาจจะพุ่งสูงถึง 30,000 ดอลลาร์ก็ได้ (910,000 บาท)
แค่ค่าเครื่องสูดพ่นยาก็ปาไปแล้ว 250 ดอลลาร์ (7,500 บาท) เธอถึงกับพูดออกมาเลยว่า ‘ถ้าจนนี่คือตายได้เลยนะ’
พอพวกเขาได้รู้ถึงตัวเลขค่าใช้จ่ายแล้ว ถึงกับต้องขอบคุณบริการสุขภาพแห่งชาติ NHS กันเลยทีเดียวล่ะ ที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้เป็นจำนวนมาก
สำหรับเหตุผลที่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของอเมริกามันช่างแพงแสนแพงนั้น ก็มีผู้เชี่ยวชาญพยายามหาสาเหตุก็พบว่า โรงพยาบาลแต่ละแห่งในสหรัฐฯ ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายที่แพงแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ เมื่อเทียบกันในเรื่องของการเข้ารับการผ่าตัดต่างๆ
แต่ประเด็นก็คือชาวอเมริกันไปหาหมอน้อยมาก และจะนอนพักรักษาตัวเพียงไม่กี่วันเท่านั้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วโรงพยาบาลอเมริกาจะบริหารงานโดยเอกชนไม่ใช่ของรัฐ
และระบบประกันสังคม Medicare ในปัจจุบันจะครอบคลุมเฉพาะผู้มีรายได้น้อยอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเป็นผู้พิการ ซึ่งก่อนที่จะมี Medicare มีคนจำนวนเพียง 51% เท่านั้นที่ได้รับสิทธิเหล่านี้ และในจำนวนเหล่านั้นอีก 30% เป็นคนยากคนจน
นอกจากนี้วงการแพทย์สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายในด้านบุคลากรที่สูง ให้เงินเดือนเยอะ มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มากจนเกินความจำเป็น
รวมถึงค่าการบริหารจัดการต่างๆ ที่คิดเป็น 8% จากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นแล้วจะใช้เพียงแค่ 1% – 3% เท่านั้น แถมค่ายาก็แพงกว่าประเทศชั้นนำอื่นๆ ถึง 2 เท่า
ที่มา: PoliticsJOE, cnbc, healthsystemtracker
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น