CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

สองพี่น้องกลับมาพบกันอีกครั้ง หลังผ่านไป 75 ปี เข้าใจว่าต่างคนต่างเสียชีวิตไปแล้ว

เรื่องราวของลูกพี่ลูกน้อง ที่พัดพรากจากกันตั้งแต่สมัยสงครามโลก ต่างคนต่างก็คิดว่าอีกคนเสียชีวิตไปแล้วจากการบุกของกองทัพนาซี แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งในอีก 75 ปีต่อมา

ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับคุณปู่ Morris Sana วัย 87 ปี และ คุณปู่ Simon Matrowitz วัย 85 ปี ทั้งสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1940 ทั้งสองครอบครัวถูกอพยพออกจากประเทศโรมาเนีย เนื่องจากว่าถูกกองกำลังนาซีบุก

 

คุณปู่ Morris Sana

 

แต่ก็ไม่เป็นผล ครอบครัวถูกจับส่งไปที่ค่ายกักกัน และก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของอีกฝ่ายเลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

พวกเขาใช้ชีวิตกว่า 3 ใน 4 ของศตวรรษ โดยที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเสียชีวิตไปแล้วจากการบุกของนาซีในวันนั้น

วันเวลาผ่านไป จนกระทั่งโซเชียลมีเดียถือกำเนิดขึ้นมา ลูกสาวของคุณปู่ Morris ก็ได้บังเอิญพบกับญาติของตัวเองในเฟซบุ๊ก และก็ได้มีการถามไถ่กันจนทราบว่าน้องชายที่หายไปนั้นยังคงมีชีวิตอยู่!!

 

 

คุณปู่ Mairowitz อาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนคุณปู่Sana อาศัยอยู่ที่ประเทศอิสราเอล

ทั้งสองคนจึงได้เดินทางมาพบกันเป็นครั้งแรกในรอบ 75 ปี และกลายเป็นเหตุการณ์ที่แสนประทับใจ

“75 ปีที่รอคอย เป็นเวลานานเหมือนกันนะ แต่ในที่สุดเราก็ได้พบกันแล้วพี่ขาย” คุณปู่ Mairowitz กล่าวในตอนที่เจอกัน

 

 

เรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาแชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยหลานสาวของคุณปู่ Sana ชื่อว่า Leetal Ofer เธอได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์พร้อมกับแคปชันเล่าเหตุการณ์ว่า

“นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่ฉันเคยเห็นในชีวิตนี้ และอยากจะแชร์ให้พวกคุณได้ดู”

“คุณแม่ของฉันเพิ่งได้พบกับญาติของตัวเองบนเฟซบุ๊ก และปรากฎว่าครอบครัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาพลัดพรากจากกันไปเมื่อราวๆ 75 ปีก่อน”

“คุณตาของฉันเคยเล่าให้ฟังว่าเขามีลูกพี่ลูกน้อง ที่เป็นพี่ชายที่สนิทกันมากๆ อยู่ แต่หลังจากเหตุการณ์สังหารหมู่ คุณตาก็เข้าใจว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ได้ยินข่าว หรือเจอหน้าของเขาอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา”

“และแล้วพวกเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง สงครามได้แยกครอบครัวของเราออกจากกัน และพาทุกคนมาเจอกันที่อิสราเอล มันช่างเป็นอะไรที่วิเศษจริงๆ”

 

ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ

 

ที่มา : people, telegraph, metro


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น