ในโลกยุคปัจจุบันที่ไม่น่าอะไรก็วุ่นวายไปหมด มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนเราจะคิดโน้นคิดนี้กันอยู่ตลอดเวลาจนปวดหัวและเกิดสงสัยขึ้นมาว่ามันเป็นไปได้ไหมที่คนคนหนึ่งจะ “หยุดคิด” ไปโดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่าคำตอบสำหรับคำถามแบบนี้ ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามความหมายของคำว่า “ความคิด” ในแต่ละคน เพราะถ้าหากว่าคุณให้ความหมายของคำว่าความคิดว่าเป็นเสียงที่เราคิดในหัว การทำสมาธิก็นับเป็นทางเลือกที่ดีที่คนคนหนึ่งจะ “หยุดคิด”
อย่างไรก็ตามหากคุณให้ความหมายความคิดว่าเป็นผลจากการยิงกระแสไฟฟ้าหรือการแลกเปลี่ยนสารเคมีในสมอง คำถามที่ว่าคนเราหยุดคิดได้ไหมก็จะซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นั่นเพราะ อ้างอิงจากคุณ Michael Halassa ผู้ช่วยศาสตราจารย์ในภาควิชาสมองและประชานศาสตร์แห่ง MIT กระบวนการทำงานของเครือข่ายสมองที่ทำให้เรา “คิด” สามารถเกิดขึ้นได้ แม้แต่ตอนที่เราหลับหรือหมดสติ เพราะหากมองกันในทางวิทยาศาสตร์แล้ว สมองของคนจะไม่มีวันหยุดคิด
“ไม่มีทางที่จะปิดสิ่งเหล่านี้ได้” คุณ Michael อธิบาย สมองของเรานั้น มักจะมีการคิดอยู่ใน “ฉากหลัง” เสมอๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ในบางเวลาซึ่งเราเดินผ่านคนที่รู้สึกคุ้นหน้าแต่ยังนึกไม่ออกทันที ในบางครั้งเราก็จะสามารถ “จำได้” ขึ้นมาเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก
คุณ Julia Kam นักประชานศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียบอกว่า มันมีความแตกต่างเล็กๆ ระหว่างการคิด กับการ “รู้ตัว” ว่าเรากำลังคิด ดังนั้นเวลาเราถามใครว่า “คิดอะไรอยู่” และได้คำตอบกลับมาว่า “ก็ไม่นิ” มันหมายความว่าจริงๆ แล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่เพียงแค่อาจจะไม่รู้ตัวเท่านั้น
การคิดโดยที่เราไม่รู้ตัวเหล่านี้ ในหลายๆ ครั้งก็อาจจะทำให้คนเรารู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจอะไรไปโดยใช้ “ความรู้สึก” หรือ “เซ้นส์” ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสมองของเราได้มีการประมวลผลการตัดสินใจนั้นๆ มาแล้ว เพียงแค่อาจจะทำโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือด้วยเหตุผลที่ค่อนข้างเป็นนามธรรมอย่างประสบการณ์หรือความชอบ
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองจึงตัดสินว่าการให้ความหมายของการคิดจะเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด ที่จะนำมาตอบคำถามว่าคนเราสามารถหยุดคิดได้หรือไม่ และไม่แน่เหมือนกันว่าเวลาที่คนเราจะหยุดคิดได้อย่างแท้จริงก็คงไม่พ้นตอนที่สมองของเราหยุดทำงานโดยสิ้นเชิงด้วยเหตุผลอย่างความตายก็เท่านั้น
ที่มา livescience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น