การสอบในสถานศึกษาเป็นหนึ่งกระบวนการวัดผลความรู้ของผู้เรียน และปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาควบคู่กับการสอบคือการโกงข้อสอบ ไม่ว่าจะด้วยในรูปแบบไหนก็ตามจึงต้องมีการตรวจสอบป้องกันการโกงข้อสอบกันอยู่เสมอ
ในส่วนของนักศึกษารายหนึ่งจากมณฑลชานซี ถูกจับได้ว่าโกงการสอบซึ่งหลังจากนั้นก็กลายมาเป็นโศกนาฏกรรมการจบชีวิตตัวเองภายในรั้วมหาวิทยาลัย
เรื่องราวของนักศึกษาแซ่ฉีวัย 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่สองจาก North University of China เขาถูกอาจารย์คุมห้องสอบจับได้ว่าแอบดูโทรศัพท์ใต้โต๊ะในระหว่างการสอบซ่อมช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา
ภายหลังจากที่เขาถูกยึดข้อสอบจากการถูกจับได้ว่าโกงสอบ นายฉีจึงเดินออกจากห้องไปและขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าตึกและกระโดดลงมาเพื่อจบชีวิตตัวเอง แต่ก่อนที่เขาจะทำเช่นนั้น เขาได้ส่งข้อความสั่งลาไปถึงแม่กล่าวว่า ‘ขอโทษ’ และ ‘ไม่ต้องเป็นห่วงผม’
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายฉี ทางครอบครัวของเขาได้เรียกร้องและกล่าวหาว่าเป็นความผิดของทางมหาวิทยาลัยและอาจารย์ ชี้ให้เห็นว่าอาจารย์ผู้คุมสอบไม่ได้ปลอบประโลมนายฉีใดๆ และมีความประมาทเลินเล่อ แม้ว่าเขาจะร้องไห้ในห้องสอบนานถึง 20 นาทีก่อนจะออกจากห้องสอบไป
“เรายอมรับว่าเขามีส่วนผิดที่โกงสอบ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทางมหาวิทยาลัยจะปัดความรับผิดชอบกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นภายในพื้นมหาวิทยาลัย”
นอกจากนั้นแล้วยังระบุเพิ่มเติมว่าทางอาจารย์คุมสอบได้บังคับให้นายฉีเซ็นชื่อในหนังสือยินยอมรับผิด ก่อนที่จะโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตเพื่อประกาศแจ้งให้คนทั้งมหาวิทยาลัยรับทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าว นั่นจึงเป็นอีกสาเหตุที่ซ้ำเติมทำให้นายฉีรู้สึกหมดหนทางที่จะไปต่อ
ในส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องสอบที่ถูกนำมาเปิดเผยนั้น ทางมหาวิทยาลัยระบุว่าอาจารย์คุมสอบไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวใดๆ ไม่มีการปะทะคารมณ์ระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา
อย่างไรก็ตาม ทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยได้ชี้แจงกับนักข่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเชื่อว่าอาจารย์ไม่ได้มีส่วนผิดอะไรเกี่ยวกับกรณีนี้ จนกระทั่งปัญหาดังกล่าวก็กลายมาเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลมีเดียจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งชาวเน็ตส่วนใหญ่ออกไปในแนวเห็นด้วยกับอธิการบดี เนื่องจากอาจารย์ทำถูกต้องตามหน้าที่ผู้คุมสอบ แต่ในส่วนของปัญหาทางด้านจิตวิทยานั้นเป็นปัญหาส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย รวมไปถึงอาจจะมีความกดดันจากครอบครัวร่วมด้วย
และในอีกแง่หนึ่งของชาวเน็ตระบุว่าโศกนาฏกรรมในครั้งนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากนักศึกษาได้รับกำลังใจและความช่วยเหลือจากอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นมากกว่านี้
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: globaltimes, weibo, shanghaiist
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น