“รักหมา ด่าทรัมป์” ยังคงเป็นสโลแกนประจำตัวของดาราหนุ่มชื่อดังอย่าง Chris Evans เสมอมาตั้งแต่ที่เขาออกมาใช้พื้นที่ของตนเองแสดงจุดยืนตรงข้ามกับ Donald Trump ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม
เรียกได้ว่าพี่คริสเป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมาของทรัมป์มาตลอดเวลา 4 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเลยค่ะ เพราะไม่ว่าทรัมป์จะออกมาพูดอะไรพี่คริสก็จะออกมาฉะหรือแสดงความคิดเห็นตรงกันข้ามเสมอ
และวันนี้เป็นวันที่พี่คริสประกาศชัยชนะที่สู้กับผู้นำทรัมป์มาตลอด 4 ปีแล้ว #เหมียวนานะ เลยอยากจะพาทุกคนมาชมมหากาพย์ของคู่นี้กัน
ถ้าจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นก็คงต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่พี่คริสยังเป็นเด็ก เพราะเขาคนนี้เกิดมาในครอบครัวที่มีคุณลุงเป็นหนึ่งในสมาชิกของพรรคเดโมแครตอย่าง Mike Capuano
ซึ่งพี่คริสมักจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนคุณลุงไมค์อยู่ตลอด นี่แหละมั้งที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสนใจในด้านการเมืองของเขา
Thank you to my family, including my nephew @chrisevans, for your support. Together, we'll keep fighting to create more opportunities for everyone, and I won't stop until the playing field is level for all. #TeamCap pic.twitter.com/jCEewCZEEQ
— Mike Capuano (@mikecapuano) May 25, 2018
พี่คริสมักจะพูดถึงเรื่องการเมืองเสมอมา จนมาถึงปี 2016 ที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ เป็นปีของการเริ่มสโลแกน ‘รักหมา ด่าทรัมป์’ ได้เริ่มต้นขึ้น
ในปีนั้นทรัมป์สามารถกวาดคะแนนเสียงและชนะไป แต่เขากลับออกมาอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่ามีคนมากกว่า 1 ล้านคนใช้เสียงโหวตแบบผิดกฎหมาย พี่คริสเลยออกมากล่าวว่า
“‘ไม่มีหลักฐาน’ ด้วยนะ คุณคือประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งไปแล้ว คุณควรหยุดพูดอะไรโกหกสักที หมดเวลาสำหรับกลยุทธในการหาเสียงแล้ว ผู้นำต้องทำอะไรได้ดีกว่านี้”
https://twitter.com/ChrisEvans/status/803020395137748992
คำด่าของพี่คริสเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทรัมป์เริ่มแสดงทัศนคติและคำพูดที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ อย่างในปี 2017 ทรัมป์ออกมาพูดว่า
“ตำรวจควรจัดหนักกับอาชญากร ไม่ควรทำตัวดีเกินไปกับพวกเขา” โดยภายหลังตัวแทนของทรัมป์ออกมากล่าวว่า “มันเป็นเพียงมุขตลกเท่านั้นแหละ”
พี่คริสจึงออกมาทวีตว่า “ช่างบ้าบิ่นและปัญญานิ่มมาก คุณคิดบ้างไหมกับสิ่งที่คุณพูดออกไป คุณคิดว่ามันเป็น ‘มุขตลก’ แล้วมันจะโอเคงั้นเหรอ?? ไม่มีความตระหนักและความเข้าใจเอาเสียเลย”
https://twitter.com/ChrisEvans/status/892343610557042688
นอกจากการออกมาค้านทรัมป์แล้ว พี่คริสยังออกมาต่อต้าน David Duke ผู้นำลัทธิแบ่งแยกสีผิว Ku Klux Klan ผ่านทางทวิตเตอร์ในปี 2017 ซึ่งในตอนนั้นก็มีคนออกมาชื่นชมเขาอย่างล้นหลาม
https://twitter.com/chrisevans/status/829490363832283136?lang=en
ในทวิตเตอร์ของพี่คริสยังคงพูดถึงทรัมป์และการเมืองในสมัยเขาอยู่ตลอดเวลา และเริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2018 ที่ทรัมป์ออกมาพูดเกี่ยวกับนโยบายการอพยพเข้าเมือง ที่ส่งผลให้ลูกๆ ของผู้ลี้ภัยต้องแยกจากครอบครัว
แน่นอนค่ะว่าพี่คริสไม่เห็นด้วย เขาออกมาทวีตว่า “ความพยายามในการลดจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานของเขามันชัดเจน เขาสามารถขุดความกลัวและความโกรธในหัวใจออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมสนับสนุนหัวรุนแรง GOP ให้มีส่วนร่วม
ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์”
https://twitter.com/ChrisEvans/status/1009821989668782082
ช่วงปี 2019 มาจนถึง 2020 เราจะเห็นพี่คริสออกมาด่าทรัมป์อยู่ตลอดเวลากับการเหยียดสีผิว ไปจนถึงเรื่อง COVID-19 ที่ทรัมป์ออกมาบอกว่าไม่เป็นความจริง เอาเป็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่คริสใช้เวลาด่าทรัมป์มาตลอดจริงๆ
ในปี 2020 พี่คริสเริ่มก่อนต้องเว็บไซต์ A Starting Point เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านข่าวสารทางการเมืองทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน พร้อมเชิญนักการเมืองมาพูดคุย เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้คนได้เข้ามารับฟังข่าวสาร
พอตั้งเว็บไซต์เสร็จเขาก็ไม่รอช้ารีบเชิญทรัมป์มาพูดคุยต่อหน้า หลังจากที่ด่ากันหลังไมค์มาเป็นเวลานาน และน่าเสียดายมากที่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะเข้าพบพี่คริสถึง 2 ครั้งแล้ว
และหลังจากที่ด่ามานานแสนนาน เงาแค้นของพี่คริสที่คอยตามด่าทรัมป์มาตลอดหลายปีก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อ Joe Biden ชนะผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ จึงทำให้ทรัมป์ต้องลงจากเก้าอี้ไป
แน่นอนค่ะว่าพี่คริสไม่ลืมที่จะฉลองชัยชนะนี้ด้วยกันแซะทวีตของทรัมป์ที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งว่า
“คุณไม่ได้ชนะ คุณน่ะแพ้แล้ว”
https://twitter.com/ChrisEvans/status/1325106574801702914
เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์การสู้รบของพี่คริสที่ยาวนานและได้ผลที่น่าพึงพอใจจริงๆ สมใจกัปตันอเมริกาเขาแล้วแหละ สุดท้ายนี้ของโควตของพี่คริสที่กล่าวไว้ว่า
“ผมคงจะผิดหวังในตัวเองถ้าผมไม่กล้าออกมาพูด โดยเฉพาะถ้าผมกลัวว่ากระทบรายได้หรือสร้างความเสียหายต่ออาชีพการงาน”
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น