CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

พบกะโหลกศีรษะที่บิดเบี้ยวคล้ายเอเลี่ยนกว่า 51 ชิ้น ในสุสานโรมันโบราณที่ฮังการี

นับว่าเป็นอีกข่าวที่น่าจับตามอง และอาจจะเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิธีชีวิตของผู้คนในช่วงปลายของอาณาจักรโรมันเลยทีเดียว เมื่อในวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา นักโบราณคดีที่ประเทศฮังการี ได้มีการออกมาเปิดเผยว่า

พวกเขานั้นได้ทำการค้นพบ กะโหลกศีรษะของมนุษย์จำนวนมาก ที่มีร่องรอยการถูกดัดแปลงจนผิดรูปคล้ายเอเลี่ยน ถูกฝังอยู่ที่แหล่งโบราณคดี สุสาน “Mözs-Icsei-dülö” ของประเทศ ซึ่งทำให้การค้นพบในครั้งนี้ กลายเป็นการค้นพบหลักฐานการดัดแปลงกระดูกมนุษย์ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมาในยุโรปกลางเลย

 

 

อ้างอิงจากรายงานการค้นพบ ในอดีตทีมนักโบราณคดีได้ทำการเข้าขุดสุสาน Mözs-Icsei-dülö ที่ฮังการีสองครั้งใหญ่ๆ ในช่วงปี 1960 และ 1990 โดยในเวลานั้น พวกเขาได้พบกับโครงกระดูกกว่า 96 ร่างจากศตวรรษที่ 5 ถูกฝังเอาไว้ในตัวสุสานโบราณ ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ดูจะไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก

อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีในเวลานั้น ก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ทราบถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในการค้นพบอย่างที่ควรเป็นนัก จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ที่พวกเขาได้มีโอกาสได้ตรวจสอบโครงกระดูกที่พบอย่างจริงจังอีกครั้งและพบว่า..

 

 

ในบรรดาโครงกระดูก 96 ร่าง ที่พวกเขาพบนั้นแท้จริงแล้วมีอยู่ถึง 51 ร่างที่มีร่องรอยความผิดปกติที่ศีรษะ ในสภาพของการถูกรัดจนกะโหลกผิดรูปไป จนมีลักษณะเหมือนหัวของเอเลี่ยน ซึ่งสำหรับนักโบราณคดีแล้ว ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก

นั่นเพราะร่องรอยความผิดปกติที่กล่าวมานี้ สามารถถูกพบได้ทั้งในกระดูกของผู้คนที่มีอายุต่างกันถึง 3 ช่วง และที่มาที่ต่างกันถึง 3 กลุ่ม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในช่วงเวลานี้ การดัดแปลงกะโหลกศีรษะได้กลายเป็นที่นิยมของคนในพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่แปลกมาก

 

 

เพราะในอดีตพิธีกรรมในรูปแบบนี้ แทบจะไม่มีการพบในโรมันเลย และทำให้การศึกษากะโหลกเหล่านี้ อาจนำไปสู่ความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับโรมันในช่วงที่กำลังจะล่มสลายได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเชื่อของคนในเวลานั้น

โดยจากข้อมูลในเบื้องต้นที่พวกเขาได้มา นักโบราณคดีก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ชาวโรมันในพื้นที่แห่งนี้ ในช่วงเวลาก่อนอาณาจักรจะล่มสลายน่าจะมีการปะปนกันของคนหลากหลายกลุ่มสูง ดังนั้นความเชื่อเรื่องการดัดแปลงกะโหลกศีรษะ (ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นจากการใช้ผ้าผันศีรษะจนแน่นตั้งแต่ตอนเด็ก) จึงถูกเผยแพร่เข้ามาจากภายนอกหลังจากนั้น

 

 

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่ ด้วยข้อมูลที่ยังถือว่ามีอยู่อย่างจำกัดนักวิทยาศาสตร์จึงไม่สามารถบอกได้เลยว่า เชื่อเรื่องการดัดแปลงกะโหลกศีรษะ ในโรมันนั้นแท้จริงแล้วได้อิทธิพลมาจากไหนกันแน่

อย่างไรก็ตามด้วยความที่กะโหลกที่ถูกดัดแปลงจนผิดรูปพวกนี้เคยถูกพบในแทบจะทุกพื้นที่ทั่วโลก เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กลุ่มคนซึ่งมีความเชื่อในจุดนี้จะเป็นกลุ่มอารยธรรมที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เราคิด

 

ที่มา allthatsinteresting, livescience, iflscience


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น