ถือว่าเป็นอีกข่าวน่าติดตามจากดินแดนจิงโจ้ออสเตรเลีย ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในประเทศไปแล้ว
เมื่อในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของประเทศได้เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นแบบซ้ำซ้อน ตั้งแต่การระบาดรุนแรงของหนู น้ำท่วม และการมีสัตว์จำนวนมากหนีน้ำขึ้นมาตามบ้านเรือน
โดยเรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อชาวไร่ชาวส่วนหลายกลุ่มในประเทศได้ออกมารายงานว่าพืชผลของตนได้ถูกทำลายโดยกองทัพหนู ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดเท่าที่เคยพบมาในรอบหลายทศวรรษ
หนูเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำความเสียหายแก่วงการการเกษตรเท่านั้น แต่มันยังทิ้งสิ่งปฏิกูลจนคนในพื้นที่ต้องใช้เวลาทำความสะอาดเกือบ 6 ชั่วโมง แถมมันยังเริ่มจะกัดผู้คนจนโรงพยาบาลต้องรับผู้ป่วยเป็นจำนวนมากอีก
https://twitter.com/Asher_Wolf/status/1359499652228214785
แต่ปัญหาคือในขณะที่ยังคงจัดการปัญหาเรื่องหนูได้ไม่สำเร็จดีนัก ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ก็ได้เกิดเหตุฝนตกหนักต่อเนื่องจนทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 5 ทศวรรษ
ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำและเขื่อนล้นออกมาเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ทางการต้องช่วยอพยพประชาชนกว่า 18,000 คนออกจากบ้านเรือน ในขณะที่มีบ้านหลายหลังที่ถูกกระแสน้ำซัดไหลไปทั้งหลัง
เท่านั้นยังไม่พอจากการที่ระดับน้ำในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังต้องพบกับปัญหาสัตว์ต่างๆ หนีน้ำเข้ามาในบ้านเรือน
ไม่ว่าจะเป็นแมลงทั่วไปอย่าง จิ้งเหลน จิ้งหรีด มด หรือแม้แต่แมงมุมมีพิษและไม่มีพิษจำนวนมาก ซึ่งกำลังมีปริมาณประชากรมากที่สุดในรอบปีพอดีอีก
อย่างไรก็ตาม นี่ก็นับว่าเป็นโชคดีเล็กๆ ในความโชคร้ายเลยก็ว่าได้เพราะเหตุการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้นนั้นแม้จะทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพิ้นที่ก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกันมันก็ช่วยทำให้น้ำท่วมรูหนูที่กำลังเป็นปัญหา และแมงมุมเองก็อาจจะทำให้หนูขนาดเล็กใช้ชีวิตได้ยากขึ้นด้วย
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนจึงหวังกันเป็นอย่างมากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นอาจจะช่วยหักล้างกันเองไปได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าความหวังในจุดนี้จะไม่ค่อยแน่นอนนักก็ตาม
“เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นอะไรที่ยากจะคาดเดาจริงๆ” คุณ Steve Henry จากองค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO) ระบุ
“ฝนอาจจะทำให้สภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยต่อหนู… แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถบอกได้แบบแน่นอนเลยว่าแค่ฝนที่เกิดขึ้นจะสามารถหยุดการระบาดของหนูในครั้งนี้ได้หรือไม่”
ที่มา livescience, theguardian และ cnn
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น