ช้างป่าจำนวนมากกว่า 350 ตัวถูกพบในสภาพสิ้นลมหายใจบริเวณทางตอนเหนือของประเทศบอตสวานา ท่ามกลางการตายอย่างปริศนาครั้งใหญ่
เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างอธิบายเหตุการณ์เช่นนี้ว่าเป็นภัยพิบัติและหายนะทางการอนุรักษ์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดนั้นยังไม่สามารถระบุได้
การตายของช้างระลอกแรกมีรายงานมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 จนกระทั่งจำนวนช้างที่ตายพุ่งสูงขึ้นเป็น 169 ตัวภายในสิ้นเดือน ก็ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับหลายๆ ฝ่าย
ตัวเลขของช้างที่ตายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในกลางเดือนมิถุนายน แหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่ากว่า 70% ของช้างที่ตายมักจะอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณแอ่งน้ำ
Niall McCann ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ National Park Rescue จากอังกฤษกล่าวว่าการตายของช้างจำนวนมากเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมานานมากแล้ว นอกจากสาเหตุของความแห้งแล้ง การเสียชีวิตของช้างจากสาเหตุอื่นๆ ยังคงไม่ปรากฎแน่ชัด
ทางด้านรัฐบาลบอตสวานายังไม่มีข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเพื่อชี้แจงถึงสาเหตุในครั้งนี้ เพราะด้วยการเก็บตัวอย่างยังไม่สามารถทำได้จากสถานการณ์ไวรัสระบาด และยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีความเสี่ยงตัวมนุษย์ด้วยหรือไม่
ท่ามกลางซากช้างที่เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก มีรายงานระบุด้วยว่าสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับซากช้างเลยแม้แต่ด้วย ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าพวกมันถูกวางยาหรือรับสารพิษเข้าไป
นอกจากนั้นแล้วชาวบ้านบางส่วนเคยเห็นช้างหลายตัวเดินวนเป็นวงกลม คาดว่าสาเหตุที่ทำให้พวกมันล้มตายลงจะเป็นอะไรก็ตาม อาจจะเกิดจากปัญหาระบบประสาทของพวกมันถูกทำลายลง
โดยสภาพของช้างบางส่วนที่ตายนั้นจะอยู่ในสภาพหน้าล้มลงกระแทกกับพื้น ชี้ให้เห็นว่าพวกมันตายอย่างฉับพลัน บางส่วนก็ค่อยๆ ตายในขณะที่เร่ร่อนไปทั่ว จึงไม่สามารถระบุได้ว่าสารพิษเหล่านั้นคืออะไร
ทั้งนี้ช้างที่ตายไม่ได้มีข้อจำกัดทางด้านเพศหรืออายุใดๆ ช้างทุกวัยถูกพบล้มตายปะปนอยู่กันหมด ซึ่งในขณะที่ช้างป่าบางส่วนยังมีชีวิตรอด แต่ก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแออย่างมากและกำลังจะตายลงในอีกไม่ช้า
ที่มา: theguardian, forbes, nypost, dailymail
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น