ในตอนที่มหาเศรษฐีผู้นำวงการเทคโนโลยี “อีลอน มัสก์” ออกมาเปิดเผยตัวลูกชายคนแรกที่เขามีกับนักดนตรีสาว “ไกรมส์ ” เมื่อช่วงวันที่ 4-5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เรื่องราวของพวกเขาก็ได้กลายเป็นข่าวโด่งดังที่มีคนกล่าวถึงกันในเวลาชั่วข้ามคืน
อย่างไรก็ตามในตอนที่หนึ่งในผู้ติดตามกว่า 33.6 ล้านคนของอีลอน มัสก์ ตัดสินใจที่จะเป็นตัวแทนของผู้คนถามคำถามสำคัญอย่างชื่อของทารกต่อเศรษฐีคนนี้ ข่าวที่ดังสุดๆ อยู่แล้วข่าวนี้ ก็ได้กลายเป็นข่าวที่โด่งดังขึ้นไปอีกขั้นได้ไม่ยาก
นั่นเพราะนายอีลอน มัสก์ ผู้อยู่เบื้องหลังสารพัดบริษัทชื่อสุดเท่อย่าง SpaceX และ Tesla นั้น ได้ออกมาตอบในทวิตเตอร์ว่าลูกชายของเขาจะชื่อ “X Æ A-12” เสียอย่างนั้น
X Æ A-12 Musk
— Elon Musk (@elonmusk) May 5, 2020
ชื่อที่ออกมาเหมือนสินค้ารุ่นใหม่มากกว่าชื่อของทารกเช่นนี้ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่น้อยเลย ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าอีลอน มัสก์แค่ล้อเล่นเกี่ยวกับชื่อของลูกชาย หรือเจ้าตัวจะบ้าจี้ใช้ชื่อนี้จริงๆ เพราะไม่ว่าหลายๆ คนจะพยายามยืนยันเรื่องนี้อีกครั้ง แต่พวกเขากลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากอีลอน มัสก์เลย
ภาพของน้อง X Æ A-12 ที่ผ่านการตัดต่อโดยอีลอน มัสก์
แน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ หน้าที่มันจึงตกอยู่กับชาวอินเทอร์เน็ตแทน ที่จะตามหาความจริงเกี่ยวกับชื่อของทารกคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ว่า X Æ A-12 อ่านว่าอะไร (เช่น Æ อ่านแยกว่า แอ หรือ แอช ได้) หรือชื่อที่เห็นนี้เป็นคำใบ้สำหรับชื่อจริงของน้องเขาหรือเปล่า
หนึ่งในผู้คนจำนวนมาก ที่พยายามไขปริศนาชื่อของ X Æ A-12
I got Jão.
X = 10 = J
Æ = ã
A – 12 (count backwards) = O— Janne 🇺🇦🇪🇺🇵🇸 (@langejanne) May 5, 2020
โดยในการสนทนาหัวข้อนี้ ดูเหมือนว่าชื่อที่น่าจะถูกต้องที่สุดในปัจจุบัน จะเป็นชื่อ “X Ash Archangel” (อ่านว่า “ซาชา อาร์คแอนเจิล”) เนื่องจาก A-12 เป็นรหัสของเครื่องบิน Lockheed A-12 “Archangel” และชื่อที่ว่านี้ก็เป็นชื่อเดียวที่ได้รับการตอบรับในรูปแบบการไลก์โดยนายอีลอน มัสก์ ด้วย
https://twitter.com/flcnhvy/status/1257538193911623681
แต่ถึงชื่อที่ออกมานี้จะมีความเป็นไปได้สูงก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้วก็คงจะมีแต่พอแม่ของตัวเด็กเองเท่านั้น ที่จะสามารถบอกเราได้ว่าจริงๆ แล้วบุตรชายของพวกเขานั้นมีชื่อว่าอะไรกันแน่
และตราบใดที่ตัวเด็กไม่ได้ชื่อว่า “เอกซ แอช เอ ไมนัส ทเวลฟ์” ตรงๆ เชื่อว่าชื่อของน้องคนนี้ ก็คงจะต้องเป็นชื่อที่ดีแน่ๆ
ที่มา businessinsider, iflscience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น