เมื่อคืนนี้บนโลกทวิตเตอร์และบนโลกเฟซบุ๊กได้มีการพูดถึงเกี่ยวกับแฮชแท็ก #EsportsTH กันอย่างกว้างขวาง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสตรีมเมอร์ชื่อดังอย่าง ‘พี่แว่น FPS Thailand‘ เตรียมเข้าสภาเนื่องจากประเด็นนี้อีกด้วย
เชื่อว่าหลายคนคงสับสนและงงว่าทำไมสตรีมเมอร์เกมถึงต้องเข้าสภา? แล้วสรุปมันเกิดอะไรขึ้นกับวงการ E-sports ในบ้านเรากันแน่ วันนี้ #เหมียวนานะ มีข้อสรุปมาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
สมาคม EsportsTH ออกกฎหมายฉบับร่างเกี่ยวกับ E-sports
หากจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นต้องย้อนไปตอนต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเลยค่ะ โดยช่วงนั้นได้มีกฎหมายฉบับร่างปล่อยออกมาจากนายกสมาคม E-sports แห่งประเทศไทย
เกี่ยวกับข้อห้ามและการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ต่างๆ ในวงการ E-sports ซึ่งข้อห้ามเหล่านี้ส่งผลไปในวงกว้าง ทั้งเหล่าเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ วงการ E-sports ที่เป็นผู้จัดแข่งขัน ผู้เล่น รวมถึงเจ้าของและต้นสังกัดต่างๆ ของเกมเมอร์ด้วย
จริงๆ แล้วข้อห้ามเกี่ยวกับกฎหมายร่างนี้เยอะมากเลยล่ะค่ะ แต่หากมองภาพรวมแล้วคือการจำกัดเกมประเภท ‘FPS (First-person shooter)‘ มากขึ้น
เกมประเภท FPS คือเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง มีความสมจริงคือเป็นเกมยิงกันที่เล่นมุมกล้องโดยจะเห็นเพียงแค่มือของตัวละครในเกม ยกตัวอย่างเกมประเภทนี้ก็จะมี Counter Strike, Special Force เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามในการเล่นเกมเน้นไปทางเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีและเยาวชนอายุ 18-25 ปี รวมถึงการจัดแข่งขันเกมต่างๆ ที่มีขึ้นในโรงเรียน ไปจนถึงสถานที่ต่างๆ ต้องได้รับการอนุญาต
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ทางเพจ The Play ได้สรุปออกมาดังนี้…
https://www.facebook.com/ThePlayEsports/photos/a.366314154162363/673753046751804/?type=3&theater
E-sports และ e-Service กับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลรัษฎากรฯ จัดเก็บภาษี e-Service ขึ้นมาซึ่งโดยรวมก็เป็นการเก็บภาษีจากการกระทำผ่านอิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการว่าร่างกฎหมายเกี่ยวกับ E-Sports นี้จะถูกนำมาใช้ควบคู่กับ พ.ร.บ e-Service ทำให้รัฐได้รายได้เพิ่มขึ้นอีก 3,000 ล้านบาท
หนึ่งในข้อห้ามในกฎหมายฉบับร่าง: ห้ามสตรีมเกมเกิน 2 ชั่วโมง
ร่างกฎหมายที่กล่าวไปด้านบนอาจส่งผลต่อเยาวชน แต่มีอีกข้อห้ามหนึ่งที่ส่งผลต่อเหล่าสตรีมเมอร์โดยตรงนั่นก็คือการห้ามสตรีมเกมเกิน 2 ชั่วโมง
ซึ่งการข้อห้ามนี้มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ของเหล่านักสตรีมเมอร์เลย เพราะเวลาคนสตรีมเกมบางคนก็ใช้เวลาปาไปแล้ว 6 ชั่วโมงก็มี
และจู่ๆ เรื่องนี้ก็กลับมาบูมขึ้นอีกครั้งหลังจากที่โดนดราม่าอื่นๆ กลบไปจนทำให้เกิดแฮชแท็ก #EsportsTH ขึ้นมาก็เป็นเพราะ ‘พี่แว่น FPS Thailand‘ คนนี้เลยค่ะ
เนื่องจากเมื่อวานนี้พี่แว่นกำลังสตรีมเกมอยู่ดีๆ เขาก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านการไลฟ์ว่าเขากำลังจะเข้าสภาเพื่อหารือเกี่ยวกับการร่างกฎหมาย E-sports
ที่กำหนดการเดิมเป็นวันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม แต่ตอนนี้เลื่อนไปเป็นวันจันทร์ ที่ 13 กรกฎาคมแทน เขากล่าวว่า
“ผมจะไปสภาพี่ เขาจะออกกฎหมายควบคุมเกม
มันยังไม่เชิงผ่าน แต่ตอนนี้มี 85 องค์กรที่สนับสนุนกฎหมายนี้ ซึ่งเป็นองค์กรที่ค่อนข้างดึกดำบรรพ์
เอาง่ายๆ ถ้ามันผ่านนะ การแข่งเกมก็ต้องขออนุญาต ห้ามแข่งเกม FPS หรือเกมที่มีความรุนแรง สตรีมเมอร์ห้ามสตรีมเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน
พุธหน้าจะเป็นวันชี้ชะตาชาวเกมเมอร์”
พี่แว่น FPS Thailand คือใคร? ทำไมถึงได้เข้าสภา?
พี่แว่น หรือ บาส ชนิกนันท์ ทิพย์ไพโรจน์ เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในวงการเกมค่ะ เขาคือผู้ผลักดันเกม FPS ในประเทศไทยให้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ก่อตั้งทีม E-sports ชื่อดังอย่าง MiTH และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสนามแข่งเกม Arena+ FPSThailand Stadium บวกกับเป็นเจ้าของเว็บไซต์ FPSThailand.com อีกต่างหาก
พี่แว่นเปรียบเสมือนคนสำคัญในวงการเกมเมอร์มากๆ ทำให้เขาได้รับเชิญให้เป็นส่วนหนึ่งในการหารือในครั้งนี้
หากใครยังไม่คุ้นนี่คือคลิปในตำนาน ‘พี่แว่นเลียแมว’
https://www.facebook.com/lovedoglovecats/videos/1111912952304174/
หลังจากที่พี่แว่นออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาวเน็ตก็เริ่มตื่นตัวกันอีกครั้งผ่านแฮชแท็ก #EsportsTH
นอกจากนี้ ‘พี่เอก HEARTROCKER‘ ผู้ที่ไม่ค่อยออกมาพูดเรื่องนี้ถึงกับออกมาพูดถึงผลกระทบของการสตรีมเกม 2 ชั่วโมงอีกด้วย
https://twitter.com/MisterHeartz/status/1278304943741399041
เราต้องมาติดตามชมกันต่อไปค่ะว่าอนาคตวงการ E-sports ในประเทศไทยของพวกเราจะเป็นอย่างไรต่อไปในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ หากมีอะไรคืบหน้าเดี๋ยว #เหมียวนานะ จะรีบมาบอกเลย
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: adaymagazine, ThePlayEsports, techsauce
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น