ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2019 ในเมืองดัลกากุย ประเทศชิลี ได้เกิดเหตุวัตถุประหลาดตกลงมาจากฟ้าในสภาพลูกไฟ ก่อนที่จะพุ่งลงในพื้นที่ 7 แห่งส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขนาดเล็กขึ้น
แน่นอนว่าเหตุการณ์ลูกไฟจากฟ้าเช่นนี้ ย่อมทำให้หลายๆ คนสงสัยเอาไว้ก่อนว่าสิ่งที่ตกลงมานั้นคงจะไม่พ้นอุกกาบาตเป็นแน่ อย่างในวันที่ 26 กันยายน คุณ José Maza นักดาราศาสตร์ชาวชิลีก็เคยมีการออกมาแสดงความเห็นไว้ว่าสิ่งที่ตกลงมาน่าจะเป็นอุกกาบาตหรือเศษขยะอวกาศที่ตกลงมาจากจรวดหรือดาวเทียม
อย่างไรก็ตามเมื่อนักธรณีวิทยาจากกรมธรณีวิทยาและการทำเหมืองแห่งชาติของชิลี เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ทั้ง 7 ซึ่งเป็นจุดตกของลูกไฟ พวกเขากลับต้องพบกับความจริงสุดประหลาด นั่นเพราะในพื้นที่ที่ควรจะมีชิ้นส่วนอุกกาบาตตกอยู่นั้น มันกลับไม่มีร่องรอยใดๆ ของอุกกาบาตอยู่เลย
อ้างอิงจากรายงานของสื่อท้องถิ่นชิลี สิ่งเดียวที่ทีมคนหาพบจากเหตุการณ์ลูกไฟตกครั้งนี้มีเพียงตัวอย่างของพุ่มไม้ที่ถูกเผาโดยลูกไฟเท่านั้น และไม่มีทั้งหินอุกกาบาตหรือหลุมที่น่าจะเกิดขึ้นจากแรงกระแทกเลย แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ตกลงมานั้นไม่ใช่อุกกาบาตได้เป็นอย่างดี
ถ้าอย่างนั้นตกลงแล้วอะไรกันแน่ที่ตกลงในประเทศชิลีเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว? สำหรับคำถามนี้เราคงต้องกลับไปอ้างอิงคำพูดของคุณ José Maza อีกครั้ง เพราะในกรณีที่สิ่งที่ตกลงมาไม่ใช่อุกกาบาต สิ่งที่เป็นไปได้ก็น่าจะเป็นขยะอวกาศแทน
แต่ความเป็นไปได้นี้เองก็ใช่ว่าจะไร้ข้อกังขาเช่นกัน นั่นเพราะในตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้นเองนักดาราศาสตร์จากศูนย์ดาราศาสตร์ฟิสิกส์ฮาร์วาร์ด สมิธโซเนียน คุณ Jonathan McDowell เองก็เคยออกมาบอกว่าในเวลานั้น มันไม่มีเศษขยะอวกาศใดๆ (อย่างน้อยก็ที่เขาทราบ) ซึ่งเข้าข่ายสิ่งที่จะตกลงมาในชิลีได้เลย
ดังนั้นก่อนที่เราจะด่วนสรุปปริศนานี้กันไปเอง ทางการของประเทศชิลีก็ได้มีการออกมาประกาศเอาไว้ด้วยว่าในปัจจุบันพวกเขายังต้องการที่จะทำการตรวจสอบหลักฐานของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ละเอียดมากกว่านี้ก่อน ทางการจึงจะสามารถระบุได้ว่าสิ่งที่ตกลงมานั้น แท้จริงแล้วเป็นอะไรกันแน่ต่อไป
ที่มา cnet, livescience และ unilad
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น