ย้อนกลับไปเมื่อเกือบๆ 68 ปีก่อน ในปี 1951 “อุกกาบาตเวดเดอร์เบิร์น” ได้ถูกคนพบในพื้นที่เมืองเวดเดอร์เบิร์น วิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย และถูกนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของสะสมวิคตอเรีย
ในตอนที่ถูกค้นพบอุกกาบาตเวดเดอร์เบิร์นถูกมองว่าเป็นเพียงหินจากอวกาศขนาดพอๆ กับลูกเลมอน และมีน้ำหนักเพียง 210 กรัมเท่านั้น
แต่แล้วเมื่อช่วงปี 2018 ที่ผ่านมานี้เอง ในตอนที่ทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เข้าทำการตรวจสอบอุกกาบาตที่พบด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบลำแสงและโพรบอิเล็กตรอน พวกเขาก็ได้พบว่าในอุกกาบาตลูกเล็กๆ ที่ดูธรรมดาลูกนี้ ยังมีแร่ประหลาด ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นเองบนโลกผสมอยู่ด้วย
แร่ที่ถูกพบนี้เกิดขึ้นจากการเรียงตัวแบบเฉพาะของอะตอมเหล็กกับอะตอมคาร์บอนและมีสูตรเคมีคือ “Fe5C2” ถูกตั้งชื่อว่า “Edscottite” เพื่อเป็นเกียรติให้แก่คุณ Edward R.D. Scott นักเคมีจักรวาลแห่งมหาวิทยาลัยฮาวาย ผู้พบตัวต้นของแร่ประหลาดในอุกกาบาตตั้งแต่ปี 1970 แต่กลับไม่สามารถยืนยันการค้นพบของตัวเองได้
อ้างอิงจากคุณ Chi Ma นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ตามปกติการจะยืนยันว่าแร่ที่พบเป็นแร่ใหม่ เราจะต้องหาทั้งโดยองค์ประกอบทางเคมีและโครงสร้างผลึกของแร่นั้นๆ ให้ได้ ดังนั้นนับว่าเป็นโชคร้ายของคุณ Edward มากที่ในเวลานั้นเขาสามารถหาองค์ประกอบทางเคมีของแร่ในอุกกาบาตได้เพียงอย่างเดียว
โครงสร้างผลึกของแร่นับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการแบ่งแยกแร่ต่างๆ ออกจากกัน ยกตัวอย่างเช่น “เพชร” และ “กราไฟท์” แร่ทั้งสองล้วนแต่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบทางเคมี อย่างไรก็ตามแร่ทั้งสองมีโครงสร้างผลึกที่ต่างกัน ซึ่งทำให้คุณสมบัติของเพชรและกราไฟท์ออกมาแตกต่างกันเป็นอย่างมากอย่างที่เห็น
และก็แน่นอนว่าแม้แร่ Edscottite จะมีองค์ประกอบทางเคมีที่ไม่แปลกก็ตาม แต่มันก็มีโครงสร้างผลึกที่แปลกเป็นอย่างมาก และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียสามารถยืนยันว่าแร่ในอุกกาบาตนี้เป็นแร่ใหม่ที่ไม่เคยถูกพบมาก่อนจริงๆ
ทั้งนี้เองคุณ Chi Ma บอกว่าแร่แบบ Edscottite เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการที่อุกกาบาตที่มีธาตุเหล็กนิกเกิลอยู่มากเย็นตัวลงอย่างช้าๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดกันว่าเดิมทีแล้วมันน่าจะเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กที่แตกมาจากอุกกาบาตขนาดใหญ่และตกลงมาบนโลก ในตอนที่อุกกาบาตลูกหลักชนกับวัตถุอื่นๆ ในระบบสุริยะอีกที
“แร่ทุกชนิดมีคำพูดและเรื่องราวเป็นของตัวเอง” คุณ Chi Ma กล่าว “ทุกครั้งที่พบแร่ธาตุนอกโลก มันจะเป็นตัวแทนของสภาพแวดล้อมที่มันก่อตัวขึ้น และมันอาจสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะในเนบิวลา บนดาวเคราะห์น้อย บนดวงจันทร์ หรือบนดาวอังคารได้เป็นอย่างดีเลย”
อนึ่ง การค้นพบในครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ในวารสาร “American Mineralogist” เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งหากเพื่อนๆ สนใจข้อมูลเพิ่มเต็มเกี่ยวกับแร่ตัวใหม่ เพื่อนๆ ก็สามารถเข้าไปอ่านรายงานการค้นพบอย่างละเอียดได้ ที่นี่
ที่มา livescience, dailymail และ degruyter
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น