มันเป็นเรื่องที่เราทราบกันว่า มาตรการปิดเมืองกักกันตัวประชาชนเพื่อควบคุมโรคนั้น เป็นการกระทำที่อาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในด้านที่ไม่ดีอย่างผลกระทบกับจิตใจ หรือในด้านดีอย่างการลดลงของมลภาวะ
อย่างไรก็ตามสำหรับในประเทศอย่างอังกฤษแล้วผลข้างเคียงจากมาตรการกักกันตัวกลับเป็นอะไรที่แปลกกว่าที่อื่นๆ พอสมควรอยู่ เมื่อล่าสุดนี้เองทางเทศบาลของประเทศได้มีการออกมาบอกว่า การทิ้งขยะในประเทศ ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ ปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนี้ โดยมากแล้วจะเป็นขยะเศษอาหารจากแหล่งที่อยู่อาศัย และขยะรีไซเคิลอื่นๆ ซึ่งส่วนมากแล้วจะถูกนำไปทิ้งไว้ตามที่ทิ้งขยะจนล้นออกมายังบริเวณรอบๆ
ที่สำคัญคือ ในบรรดาขยะที่เพิ่มขึ้นนี้ ก็มีหลายส่วนที่ถูกทิ้งอย่างมักง่ายไว้ตามข้างถนน หรือตามหน้าอาคารร้านค้าการกุศล และร้านรับซื้อของเก่า ทั้งๆ ที่ร้านเหล่านั้นไม่ได้เปิดทำการเนื่องจากมาตรการกักตัว สร้างทั้งกลิ่นเหม็น และภาพอันไม่พึ่งประสงค์ในวงกว้าง
.
โดยตั้งแต่ที่เริ่มการกักตัวมานั้น ปริมาณขยะที่ถูกทิ้งเรี่ยราดในประเทศอังกฤษ ได้พุ่งสูงขึ้นกว่า 300% แถมจากสถานการณ์ในปัจจุบันตัวเลขนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้นได้เรื่อยๆ ด้วย เนื่องจากศูนย์รีไซเคิล และที่ทิ้งขยะหลายๆ แห่งนั้นยังคงมีแนวโน้มที่จะปิดตัวต่อไปอีกนาน
“นี่เป็นการเพิ่มภาระงานที่ไม่จำเป็นในทีมงานทำความสะอาดของเรา และไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้เลยในทุกสถานการณ์ แม้แต่ในภาวะไวรัสโคโรนาระบาดอย่างในปัจจุบัน” คุณ Cllr Norman MacRae สมาชิกคณะรัฐมนตรีเพื่อสิ่งแวดล้อมกล่าว
นี่นับว่าเป็นอีกผลกระทบที่น่าสนใจของมาตรการกักตัวเพื่อควบคุมโรคเลยก็ว่าได้ และแน่นอนมันทำให้รัฐบาลอังกฤษเองต้องออกมากำชับอีกครั้งว่าต่อให้เป็นช่วงเวลานี้ก็ตาม การทิ้งขยะเรี่ยราดก็ยังคงเป็นเรื่องผิดกฎหมายที่มีโทษรุนแรงอยู่ และขอความร่วมมือให้ผู้คนอย่าทำตัวมักง่ายเพียงเพราะสถานการณ์อำนวย
ถึงอย่างนั้นก็ตามมันก็มีคนบางส่วนที่บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้คงจะโทษแต่ภาคประชาชนไม่ได้ เพราะการที่ศูนย์รีไซเคิลปิดตัวไปเช่นนี้ย่อมทำให้ผู้คนไม่สามารถหาที่ทิ้งขยะได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วเมื่อไม่มีที่ไป ขยะของพวกเขาจึงไปจบลงที่ข้างทางนั่นเอง
ที่มา dailymail, theunionjournal และ inews
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น