เชื่อเหลือเกินว่าเมื่อถึงเทศกาลเซลลดราคาใหญ่ๆ อย่างวันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปี ก็จะมียอดออเดอร์สั่งแบบมหาศาล ปัญหาที่ตามมาและพอจะเข้าใจได้คือการขนส่งที่ล่าช้า เนื่องจากมียอดสั่งซื้อเยอะมากๆ ในช่วงนี้
แต่อีกปัญหาที่คงจะเข้าใจได้ยากหน่อยคือ สั่งของไปแล้วแต่ดันลืมว่าตัวเองยังไม่ได้ของนานเกือบปีให้หลังนี่แหละ!
หญิงจีนจากเมืองกว่างโจวรายนี้ ก็เข้าร่วมสั่งซื้อทีวีในเทศกาล 11.11 เหมือนกัน ไว้วางใจเหลือเกินว่าบริษัทขนส่งจะส่งของมาให้ถึงที่หมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย
นางหลีเปิดเผยว่าเธอเองไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องรีบใช้ทีวีใหม่ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหากของยังมาไม่ถึงตามกำหนดที่ควรจะถึง
แต่พอมาถึงเดือนมิถุนายน 2020 เธอก็เพิ่งจะนึกออกได้ว่าเธอได้สั่งซื้อทีวีใหม่ไปเมื่อปีที่แล้ว และยังไม่ได้ของเลย!!
เธอจึงทำการติดต่อกับศูนย์บริการลูกค้าและพบว่าทีวีใหม่ที่สั่งไปนั้น ถูกรับของเอาไว้โดยคนอื่นและที่อยู่กลับส่งไปอยู่อีกเขตหนึ่งที่ไม่ใช่เขตของเธอ
สืบลึกลงไปอีกนิด ก็เริ่มเอะใจกับการสั่งซื้อทีวีตัวนี้ เพราะสามีเป็นคนใส่เบอร์ผิดอีก และคนส่งของก็ติดต่อไปยังเบอร์ที่ให้ไปนั่นแหละ
คนเซ็นรับของระบุว่าตอนนั้นเขาถามย้ำกับคนส่งแล้วว่าให้ไปส่งกับเจ้าของที่สั่งซื้อตัวจริง แต่คนส่งไม่รับกลับกันยังขอให้เขาช่วยเซ็นรับของไป
เมื่อรู้สึกจนปัญญา เขาก็ยินยอมเซ็นชื่อรับของเป็นชื่อสามีนางหลี จากนั้นทีวีที่ได้มาฟรีๆ ก็เอาไปให้เพื่อนแทน…

มาจนถึงตอนนี้ เขาก็ขอทีวีคืนมาจากเพื่อนแล้ว แต่สำหรับนางหลีเองระบุว่าทีวีตัวนั้นไม่มีมูลค่าเท่ากับตอนที่สั่งซื้อแล้ว เนื่องจากเป็นไปตามกลไกการเสื่อมราคา
นางหลีเชื่อว่าแม้เขาจะปฏิเสธไม่รับทีวีตั้งแต่แรกที่ส่งไปถึงบ้าน เขาก็ยังคงเซ็นชื่อรับของอยู่ดี และเขาควรจะจ่ายค่าเสียหายตรงนี้ด้วย
แล้วตกลงเป็นความผิดของใคร?
ทนายความที่รับผิดชอบว่าความในครั้งนี้ ระบุว่าปัญหาที่เกิดมาจากนางหลีส่วนหนึ่ง สามีของเธออีกส่วนหนึ่ง เพราะทั้งคู่ใส่เบอร์ผิด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าชายที่เซ็นรับของกับคนส่งของจะเป็นผู้บริสุทธิ์
เนื่องจากข้อกฎหมายที่มีอยู่ ชายคนรับของควรจะส่งทีวีคืนให้ผู้ซื้อตัวจริง และคนส่งของควรขยันและมีความรับผิดชอบมากกว่านี้
นอกจากนั้นฝั่งคนขายเองก็ควรตรวจสอบข้อมูลลูกค้าก่อนส่ง แทนที่จะส่งไปโดยไม่ตรวจสอบว่าพัสดุจะไปถึงมือลูกค้าโดยไม่ดูอะไรนอกจากเบอร์โทรศัพท์

จากปัญหาทั้งหมด ผู้รับผิดชอบของบริษัทขนส่งระบุว่าเป็นความประมาทร่วม ผู้ซื้อควรตรวจข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วนมากกว่านี้ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์
และหลังจากที่พัสดุไปถึงแล้ว ก็ควรตรวจสภาพสินค้าให้ดีตรงกับความพึงพอใจ ถ้ามีปัญหาอะไรก็จะได้ติดต่อบริษัทขนส่งและผู้ขายได้
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: 8world, orientaldaily
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น