CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

รัฐบาลนิวซีแลนด์เตรียม ‘แจกผ้าอนามัยฟรี’ ให้นักเรียนหญิงทั่วประเทศ-ช่วยลดค่าใช้จ่าย

การผลักดันในเรื่องของการแจกผ้าอนามัยฟรีให้กับประชาชนนั้น เริ่มมีความคืบหน้าในหลายประเทศแล้ว เช่นเดียวกับประเทศนิวซีแลนด์ที่กำลังเริ่มอนุมัติให้มีการแจกผ้าอนามัยฟรี โดยเริ่มจากกลุ่มนักเรียนหญิงในสถานศึกษาเป็นกลุ่มแรก

 

 

นายกรัฐมนตรี Jacinda Ardern ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ 3 มิถุนายน 2020 โดยระบุว่าทางรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนในเรื่องของผ้าอนามัย เพื่อลดปัญหาที่เป็นการซ้ำเติมความยากจนในประเทศหรือ Period Poverty ภาวะของการที่เด็กสาวจำนวนมากไม่มีเงินพอซื้อผ้าอนามัย

 

 

โดยนักเรียนหญิงในระดับมัธยมทั่วประเทศจะได้รับสนับสนุนผ้าอนามัยฟรีจากรัฐบาลเป็นรายเดือน ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลเองระบุว่าไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย แต่เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน

และมีเด็กสาวจำนวนมากต้องขาดเรียนจากการที่ไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยทั้งแบบแผ่นและแบบสอดได้

 

 

ปัญหาดังกล่าวกระทบกับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล มีรายงานว่าเด็กนักเรียนหญิงจำเป็นต้องใช้กระดาษชำระ หนังสือพิมพ์ หรือเศษผ้าในการจัดการประจำเดือน เนื่องจากไม่มีเงินพอที่จะซื้อผ้าอนามัย รวมทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ซ้ำเติมผลกระทบทางการเงินในอีกหลายครอบครัว

โดยจะเริ่มดำเนินการแจกผ้าอนามัยฟรีในเทอมที่ 3 ของปีการศึกษา 2020 และโครงการดังกล่าวจะขยายไปทั่วประเทศภายในปี 2021

 

https://www.facebook.com/jacindaardern/posts/10157025379552441

 

“เราทราบดีว่าเด็กผู้หญิงในกลุ่มอายุ 9-18 ปี กว่า 95,000 ราย มีความจำเป็นจะต้องอยู่บ้านในช่วงมีประจำเดือนเนื่องจากไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อผ้าอนามัยได้ ด้วยการแจกผ้าอนามัยฟรีเช่นนี้ เราสนับสนุนให้เยาวชนสามารถไปเรียนที่โรงเรียนได้อย่างต่อเนื่อง”

 

https://www.instagram.com/p/CA9_PiljuQU/

 

ทางรัฐบาลนิวซีแลนด์หวังว่ามาตรการเหล่านี้จะพอช่วยเหลือ และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้หญิงได้ไม่มากก็น้อย ด้วยงบประมาณ 2,600,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 53,146,000 บาท)

โดยที่ผ่านมาบางครอบครัวต้องงดซื้อผ้าอนามัย ส่งผลทำให้นักเรียนหญิงบางส่วนต้องหยุดเรียนในช่วงมีประจำเดือน และไม่สามารถจัดการประจำเดือนได้อย่างถูกสุขลักษณะเมื่ออยู่ที่โรงเรียน

 

ที่มา: beehive, theguardian, reuters, dailymail


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น