ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การจะประกอบอาชีพใดอาชีพหนึ่งเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงความต้องการที่เหมาะสมกันบ้างแล้ว หากมีความสามารถด้านนี้แต่ไม่ได้เรียนจบมาโดยตรงก็สามารถประกอบอาชีพอื่นได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอด
ยังไม่ต้องไปถึงขั้นนั้นก็ได้ เอาแค่ความฝันของเด็กคนหนึ่งที่อยากจะประกอบอาชีพตามที่ใจตนเองต้องการ อย่างเช่นมีฮีโร่ในดวงใจก็อยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง บุคคลที่เราปลื้มก็อยากจะเป็นแบบเขาบ้าง
ทว่าบ่อยครั้งที่ความฝันของเด็กที่ห่างไกลกับบริบทในชีวิตจริง ก็มีผู้ใหญ่คอยขัดความฝันของเด็กๆ ด้วยคำว่ามันเป็นไปไม่ได้ พร้อมกับความเชื่อมั่นของเด็กที่ค่อยๆ จางหายลงไป เช่นเดียวกับนักเรียนชายคนหนึ่งที่เพื่อนได้ลงข้อความพร้อมภาพถ่ายเอาไว้ว่า…
“อันนี้คือของเพื่อนเรานะคะ คือเพื่อนอยากเป็นทหารมากเค้าชอบพวกปืนมากๆแบบความฝันเลยค่ะ ในรูปแรกคือ ใบงานกรอกคณะและอาชีพต่างๆค่ะ เขียนที่เราชอบเลย
แล้วคือเพื่อนเราอยากเป็นทหารแต่เค้าเองก็ไม่รู้ว่ามันต้องเรียนคณะอะไร ซึ่งคณะต้องคล้องจองกับอาชีพค่ะ แบบจบคณะนี้แล้วจะทำงานอะไร
เพื่อนอยากเป็นทหาร แต่เค้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องเรียนคณะอะไรซึ่งก็เลยเขียนว่าภาษาศาสตร์ไปแล้วมันก็ผิดค่ะครูก็ให้แก้
แต่คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องดูถูกความฝันของเพื่อนเราด้วยหรอคะ “ขอเป็นอาชีพในอนาคตที่มีโอกาสเป็นได้” คือแบบความฝันของเด็กคนหนึ่งมันจะไม่สามารถเป็นจริงได้เลยหรอคะเท่าที่เรารู้ (แต่ไม่แน่ใจนะคะ )
ต้องเป็นทหาร แล้วทางหน่วยจะคัดเลือกคนไปเอง/สอบ แต่ทำไมต้องดูถูกความฝันเด็กคะ ครูพูดแบบนี้ได้หรอคะ #หยุดดูถูกความฝันคนอื่น #ครูพูดเเบบนี้ได้หรอคะ”
เรื่องเช่นนี้จึงทำให้โลกออนไลน์ได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายมาก มีการยกตัวอย่างเช่นคนไทยหลายคนก็เคยมีโอกาสได้ไปเป็นทหารของสหรัฐอเมริกาเหมือนกัน
รวมไปถึงการวิจารณ์วิสัยทัศน์ของครูผู้สอนนั้นไม่กว้างขวางพอ ด้วยบริบทโลกที่เปลี่ยนไป มีช่องทางหลากหลายมากขึ้น ไม่ควรดูถูกและเหยียดหยามเพราะทุกคนล้วนมีความคิดและความฝันที่ไม่เหมือนกัน หากไม่ทราบก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่ายในยุคนี้
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น