ในช่วงที่เกิดวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม ปัญหาของการบุกจี้ปล้นจะมาควบคู่กันอยู่เสมอซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องระมัดระวังกันมากเป็นพิเศษ และช่วงนี้มักจะมีเรื่องของหน้ากากอนามัยมาเกี่ยวข้องอยู่ตลอด
และสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในเมืองอิวามิซาวะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้ ก็มีความเกี่ยวข้องกับหน้ากากด้วยเช่นกันแต่กลับมีจุดหักมุมเกิดขึ้น
ในช่วงวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2020 เวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คุณยายวัย 88 ปีเจอกับชายวัยกลางคนที่บุกเข้ามาปล้นบ้านของเธอ เข้ามาจากทางประตูหลังบ้านที่ล็อคไม่สนิท
ชายวัยประมาณ 50 – 60 ปี บุกเข้ามาพร้อมกับเลื่อยในมือ โบกไปโบกมาด้วยความก้าวร้าวพร้อมกับตะโกนซ้ำๆ ว่า “เอาอาหารมา”
คุณยายยินยอมให้ข้าวพร้อมกับข้าว (โอกะซุ) โดยที่เธอคิดว่าจุดประสงค์ที่เขาบุกเข้ามาปล้นเพราะด้วยความหิวโหย แต่แทนที่ชายคนนี้จะคว้าของแล้วหนีไป เขากลับนั่งทานอยู่ในบ้านพร้อมกับขอข้าวเพิ่มและคุณยายก็ให้เพิ่มด้วย
เมื่อเขาทานเสร็จก็ขู่เรียกเงิน “เอาเงินมา” ยายก็ให้เงินเขาไปประมาณ 2,000 เยน ซึ่งน่าแปลกใจตรงที่เงินจำนวนนั้นไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่มันทำให้เขารู้สึกพอใจและหนีหายไป แต่ทว่าเขาได้ทิ้งหน้ากากอนามัย 10 ชิ้นไปให้คุณยายด้วย…
สำหรับสถานการณ์เช่นนี้หน้ากากอนามัย 10 ชิ้นมีค่ามากกว่าเงินสด 2,000 เยนเสียอีก (ยังไม่รวมค่ากับข้าวด้วย) เนื่องจากสินค้าขาดตลาดและมีความต้องการที่สูงมาก เนื่องจากไวรัสแพร่ระบาดหนัก
และการกระทำเช่นนี้ ทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่าการที่เขาเข้ามาบุกปล้นอาจเป็นเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น และต้องการแสดงความขอโทษที่ต้องทำแบบนี้กับคุณยายรึเปล่า?
แต่อย่างไรเสีย การบุกเข้าบ้านคนอื่นพร้อมกับบังคับขู่ปล้นนั้นถือว่าผิดกฎหมายอยู่ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งตามสืบหาตัวผู้ร้ายรายนี้กันต่อไป
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น