***เรื่องนี้เกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคลล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณ***
คุณผู้อ่านก็คงจะทราบกันดีว่าคนไทยเรานั้นนับถือในเรื่องของความเชื่อต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฤกษ์งามยามดี ดวง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เชื่อกันว่าหากเราเคารพนับถือแล้วจะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
เรื่องความเชื่อที่กำลังมาแรงสุดๆ ในปัจจุบันอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ “สายมูเตลู” เป็นการนับถือเครื่องรางของขลังต่างๆ ที่บูชาแล้วจะทำให้เกิดผลดีกับเรื่องความรัก การทำงาน สุขภาพ หรือในเรื่องของความร่ำรวย
มาที่เรื่องของภาพนี้ที่กำลังกลายเป็นที่สงสัยว่า ภาพนี้คือภาพของอะไร ทำไมจึงมากลายเป็นรูปภาพโปรไฟล์ของชาวเน็ตหลายๆ คนในตอนนี้
ภาพนี้ก็คือภาพของ “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย” เป็นเทพเจ้าจากประเทศจีน ขึ้นชื่อในเรื่องแห่งโชคลาภเงินทอง เชื่อกันว่าหากใครบูชาเคารพนับถือเทพเจ้าเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยแล้วจะมีเงินทองไหลมาเทมาอย่างไม่ขาดสาย
หากบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยแล้วจะช่วยในด้านไหนบ้าง
ตามความเชื่อของชาวจีน เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยคือเทพเจ้าที่ช่วยในเรื่องของโชคลาภเงินทอง เสริมดวงให้เฮง ประสบความสำเร็จไม่ติดขัดเรื่องเงิน หากเจ้าหนี้บูชาเอาไว้จะดี
ทำไมรูปเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย จึงกลายมาเป็นรูปโปรไฟล์ของชาวเน็ต
เกิดจากความเชื่อที่ส่งต่อๆ กันมาในเรื่องของวอลเปเปอร์มงคลประจำวันที่เชื่อกันคล้ายกับเรื่องสีเสื้อมงคล ก็จะมีตารางกำหนดออกมาจากสำนักดูดวงหมอดูชื่อดังต่างๆ ว่า คนที่เกิดวันไหน ต้องใช้วอลเปเปอร์โทรศัพท์สีอะไรถึงจะเป็นมงคล
บวกกับความเชื่อที่ว่าหากบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยแล้วจะทำให้เงินทองไหลมาเทมาก็เลยเกิดเป็นที่มาของการนำรูปของเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยมาตั้งเป็นวอลเปเปอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อความสะดวกและเข้ากับยุคสมาร์ทโฟนที่แท้จริง
ยิ่งตอกย้ำความเชื่อบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยแล้วเงินทองไหลมาเทมาเข้าไปอีก เมื่อมีการเปิดเผยว่า ลิซ่า BLACKPINK ใช้รูปเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยเป็นวอลเปเปอร์ ทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นสาวที่ฮอตสุดๆ อันดับต้นๆ ของโลก มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย
จากนั้นรูปเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยก็กลายมาเป็นรูปโปรไฟล์ของชาวเน็ตในแทบทุกแอปพลิเคชั่นไม่ว่าจะเป็นในไลน์ หรือเฟซบุ๊กที่กำลังฮิตในขณะนี้นั่นเอง พร้อมแคปชั่นที่บอกว่า “ก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่นะ”
ส่วนใครจะนำรูปของเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยไปตั้งเป็นวอลเปเปอร์ก็สามารถลองกันได้ เผื่อจะมีเงินทองไหลมาเทมา หรือถูกหวยในงวดนี้ก็ได้นะ
เรียบเรียง: #เหมียวบู้บี้
ที่มา: horoworld
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น