CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

คุณอาจจะไม่รู้ว่า ฤดูร้อนที่ผ่านมา “ธารน้ำแข็งที่กรีนแลนด์” ได้ละลายไปแล้ว 6 แสนล้านตัน

มันเป็นเรื่องที่เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันภาวะโลกร้อนกำลังกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สร้างผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมให้กลับหลายๆ ประเทศในโลกอยู่

 

 

อย่างไรก็ตาม หากเราพูดกันในด้านระบบนิเวศและภูมิศาสตร์แล้ว สถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจุบันภาวะโลกร้อนที่สุดในปัจจุบันก็คงจะไม่พ้น กรีนแลนด์เป็นแน่ เพราะอ้างอิงจากงานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters

จนถึงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมากรีนแลนด์นั้น ถูกภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลายหายไปมากกว่า 600,000 ล้านตันแล้ว

 

 

จากข้อมูลที่ระบุไว้ในงานวิจัย นักวิทยาศาสตร์ได้ตัวเลขมหาศาลนี้มาจากการตรวจสอบปริมาณน้ำแข็งในพื้นที่ตั้งแต่ในช่วงปี 2002-2019 โดยอาศัยข้อมูลงานดาวเทียมสังเกตการณ์สภาพภูมิอากาศอีกที

“พวกเราพอจะทราบกันมาบ้างว่าในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมานี้ อากาศในกรีนแลนด์อบอุ่นเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ธารน้ำแข็งแทบทุกหนแห่งเริ่มละลายไป” คุณ Isabella Velicogna นักเขียนหลักของงานวิจัยกล่าว “แต่ถึงอย่างนั้นตัวเลขที่ออกมามันก็ถือว่ามหาศาลมากอยู่ดี”

แน่นอนว่าตัวเลขที่ออกมานี้ไม่ได้น่ากลัวแค่ในแง่ของการสูญเสียพื้นที่ของประเทศเท่านั้น แต่น้ำแข็งที่ละลายไปนั้น ยังสามารถทำให้ระดับน้ำทะเลของโลกโดยรวมพุ่งสูงขึ้นได้ถึง 2.2 มิลลิเมตรภายในเวลาสั้นๆ เพียง 2 เดือนอีกด้วย ซึ่งถือว่าอาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย

 

 

เท่านั้นยังไม่พอในงานวิจัยเดียวกันนี้เอง นักวิทยาศาสตร์ยังได้ระบุถึงการละลายของน้ำแข็งในพื้นที่ทวีปแอนตาร์กติกาโดยรวมด้วย เพื่อเปรียบเทียบกับการละลายของน้ำแข็งในกรีนแลนด์

ซึ่งที่นั่นพวกเขาได้พบกับความจริงที่น่าสนใจที่ว่า แม้น้ำแข็งในทางตะวันตกของทวีปจะกำลังค่อยๆ ละลายไป แต่ในฝั่งตะวันออก ที่แห่งนี้กลับมีหิมะตกซึ่งช่วยเพิ่มน้ำแข็งราวกับทดแทนน้ำแข็งที่หายไปอยู่เช่นกัน

ดังนั้นในปัจจุบันนักวิจัยบางส่วนจึงออกมาบอกว่าในปัจจุบันสถานการณ์ในกรีนแลนด์อาจจะเรียกได้ว่าแย่ยิ่งกว่าในทวีปแอนตาร์กติกาไปแล้วด้วยซ้ำ

 

 

และหากปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไป ไม่แน่เหมือนกันว่าน้ำแข็งจากที่นี่จะละลายไปอย่างต่อเนื่องจนทำให้ระดับน้ำทะเลที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวันๆ ของเรา เพิ่มมากขึ้นไปอีกอย่างหยุดยั้งไม่ได้อีกต่อไปก็ได้

 

ที่มา foxnews และ onlinelibrary


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น