ย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2019 ลึกเข้าไปในเกาะแกรนคะแนรีของราชอาณาจักรสเปน ทีมนักโบราณคดีหน้าใหม่กลุ่มหนึ่ง ได้นำโดรนขึ้นออกบินสำรวจพื้นที่ในเกาะ และพบเข้ากับถ้ำแห่งหนึ่งเหนือขึ้นไปบนหน้าผาซึ่งยากแก่การเข้าถึงเป็นอย่างมาก
เมื่อพวกเขาเข้าไปสำรวจถ้ำที่พบได้สำเร็จในที่สุด นักโบราณคดีก็พบกับโครงกระดูกของมนุษย์จำนวนมากถูกฝังไว้ในถ้ำ ซึ่งกลุ่มคนที่จะเป็นไปได้มากที่สุดก็คงจะไม่พ้นชาว “Guanche” กลุ่มนักล่าและเก็บของป่าโบราณ ที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะเมื่อราวๆ ศตวรรษที่ 8-10
ในตอนแรกที่โครงกระดูกเหล่านี้ถูกค้นพบ ทีมนักโบราณคดีมือใหม่รู้ตัวว่าภาพของพวกเขามีโอกาสสูงที่จะโดนหาว่าเป็นภาพปลอม เนื่องจากกระดูกจำนวนมากในภาพ ซึ่งเมื่อบวกกับปัจจัยอื่นๆ พวกเขาจึงตั้งใจที่จะไม่รายงานการค้นพบ
อย่างไรก็ตามด้วยความที่ทีมอยากให้ผู้เกี่ยวข้องทำการเข้ามาดูแลรักษาตัวพื้นที่ที่กระดูกถูกทิ้งไว้ ในท้ายที่สุดเมื่อช่วงต้นปี 2020 พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะรายงานการค้นพบในที่สุด
อ้างอิงจากรายงานของผู้เชี่ยวชาญ โครงกระดูกที่ถูกพบในครั้งนี้ประกอบไปด้วยกระดูก 72 ร่าง โดยในจำนวนนั้น 62 ร่างเป็นของผู้ใหญ่ และอีก 10 ร่างเป็นของเด็กแรกเกิด ซึ่งบางส่วนถูกพบพร้อมผ้าห่อศพที่ทำจากเส้นใยผักและหนังสัตว์อีกที
นักโบราณคดีจากสภาวัฒนธรรมคุณ Javier Velasco และคุณ Veronica Alberto กล่าวกับแหล่งข่าวในท่องถิ่นว่า การพบกระดูกชาว Guanche ในเกาะแกรนคะแนรีนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่แปลก เพราะที่ผ่านๆ มา เราก็พบแหล่งโบราณคดีในรูปแบบคล้ายๆ กันมากว่า 1,200 แห่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม แห่งโบราณในครั้งนี้มีความพิเศษกว่าที่อื่นตรงที่มันมีร่างของเด็กแรกเกิดอยู่ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกพบมาก่อน ในเกาะแกรนคะแนรี
“การค้นพบซากทารกแรกเกิดมีความสำคัญมาก เนื่องจากในการค้นพบครั้งก่อนๆ เราแทบไม่เคยพบร่างเด็กเลย จนกระทั้งเมื่อไม่นานมานี้” คุณ Veronica กล่าว “มันทำให้ตอนนี้เรารู้แล้วว่าคนในอดีต ก็มีการฝังร่างของเด็กในถ้ำเหมือนกับผู้ใหญ่เลย”
ที่มา allthatsinteresting, efe, nypost และ ancient-origins
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น