ย้อนกลับไปเล็กน้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา ที่ประเทศกินี-บิสเซา ทางตะวันตกของแอฟริกา ได้เกิดเหตุประหลาดที่กินเวลายาวนานหลายอาทิตย์ เมื่อนกแร้งอย่างน้อย 648 ตัวในประเทศ จู่ๆ ถูกตกลงมาตายอย่างน่าประหลาด
“หายนะการอนุรักษ์อีแร้งกำลังเกิดขึ้นในกินี-บิสเซา จากการที่มีแร้งตายไปกว่า 600 ตัว” มูลนิธิการอนุรักษ์นกแร้ง (Vulture Conservation Foundation) หรือ VCF กล่าว “มันเริ่มต้น 200 กลายเป็น 400 และในปัจจุบันเราก็มีนกตายไปแล้วถึง 648 ตัว”
ไม่มีใครทราบว่านกแร้งเหล่านี้ ทำไมจู่ๆ ถึงได้ตกลงมาตายจากฟ้าในรูปแบบนี้ได้ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเชื่อว่าความตายของพวกมันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการทานสารพิษบางอย่างเข้าไป (เช่นจากซากสัตว์ที่ตายเพราะยาพิษ)
ปัญหาเพียงข้อเดียวของแนวคิดนี้ คือหากนกตายเพราะพิษจริงๆ ความตายของพวกมันก็น่าจะเกิดขึ้นในจุดจุดเดียว (ในกรณีนี้คือ ภายในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งมีการพบซากนกตายเป็นครั้งแรก) แต่การตายของนกในครั้งนี้กลับเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และบางแห่งก็ดูจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย
ดังนั้น ทีมนักวิจัยจึงยังไม่ทิ้งความเป็นไปได้ที่ว่าแร้งเหล่านี้อาจจะตกลงมาตายจากปัจจัยอื่นๆ ที่น่ากลัวกว่าที่เห็นอย่างโรคร้าย หรือสภาพอากาศที่ผิดปกติรุนแรง ทำให้ในปัจจุบัน ซากนกส่วนใหญ่ที่ตกลงมาตายจะถูกนำไปเผา และคนในพื้นที่เองก็ได้รับการเตือนไม่ให้เข้าไปยุ่งกับซากนกที่ตายโดยไม่มีการป้องกันด้วย
นี่นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับนักอนุรักษ์เลยก็ว่าได้ เพราะประเทศกินี-บิสเซานั้น จัดว่าเป็นที่อยู่ของนกหายากใกล้สูญพันธุ์อย่างน้อยๆ ถึง 7 ชิ้น
และในบรรดาแร้งที่ตกลงมาตายในเหตุการณ์ครั้งนี้เอง โดยมากแล้วก็เป็น “แร้งฮูด” (Necrosyrtes monachus) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically Endangered) เสียด้วย
แร้งฮูดหนึ่งในแร้งใกล้สูญพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ส่วนเรื่องที่ว่าสุดท้ายแล้วเราจะสามารถค้นพบสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความตายในครั้งนี้หรือไม่นั้น เวลานี้เราคงจะต้องรอผลตรวจซากแร้งจาก VCF ต่อไปก่อน
ที่มา allthatsinteresting และ iflscience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น