หลังจากเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วมีข่าวอกมาว่าคุณพี่ Tom Hanks กับภรรยาติดเชื้อ COVID-19 ทำให้ทั่วโลกต่างตกใจและเริ่มหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น
ซึ่งในตอนนี้พี่ Tom กับภรรยาก็หายจากโรคนี้แล้วและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะออกมาขอร้องให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย เพราะโรคนี้มันน่ากลัวกว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก
คือสถานการณ์ในไทยเราค่อนข้างดีขึ้นตามลำดับแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกายังคงมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในทุกๆ วันและมียอดผู้ติดเชื้อรวมๆ แล้วกว่า 2.6 ล้านคนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ผู้คนในอเมริกาหลายๆ กลุ่มกลับเมินเฉยต่อการสวมหน้ากากอนามัยค่อนข้างเยอะพอสมควรเลย จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันในที่สาธารณะอยู่บ่อยๆ
โดยส่วนใหญ่เหล่าผู้ที่ไม่สวมหน้ากากมักอ้างว่าการสวมหน้ากากมันไม่ใช่กฎหมายที่ถูกเอามาบังคับใช้สักหน่อย บางคนก็คิดว่ามันช่วยอะไรไม่ได้
และเหตุผลที่น่าขมวดคิ้วที่สุดคืออ้างว่ามันขัดต่อวัตถุประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการให้มนุษย์หายใจโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น
ด้วยเหตุนี้เองพี่ Tom เลยออกมาพูดเรื่องนี้ขณะที่เขามาออกมาสัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ People เพื่อโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Greyhound ว่า
“มันมีแค่ 3 อย่างเท่านั้นที่ทำให้เราก้าวผ่านไปถึงวันพรุ่งนี้ได้
คือสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสัมคมและล้างมือ
สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
แต่ถ้ามีใครที่ไม่สามารถทำ 3 สิ่งที่เบสิกขนาดนี้ได้ ผมคิดว่าพวกคุณมันน่าสมเพชมากนะ
อย่าทำตัวงี่เง่าไปหน่อยเลย ทำตามเถอะ ทำหน้าที่ของคุณน่ะมันง่ายมาก
อย่างเช่นถ้าเวลาเราขับรถก็ไม่ควรขับเร็วเกินไป เปิดไฟเลี้ยวและเลี่ยงการชนคนเดินตามถนนใช่ไหมล่ะ
พระเจ้าช่วยมันเป็นเรื่องของสามัญสำนึกล้วนๆ เลย”
นอกจากนี้พี่ Tom ยังอัพเดทอาการของเขากับภรรยาว่าพวกเขาสบายดีหลังจากที่รักษา COVID-19 หายแล้ว แต่พี่ Tom ก็ยังเป็นห่วงผู้คนในอเมริกาที่ยังคงไม่ยอมทำตามมาตรการการป้องกัน COVID-19 อยู่ดี
เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกเลยนะที่เขาคนนี้ออกมาพูดแรงขนาดนี้ พวกเราก็อย่าลืมล้างมือและสวมหน้ากากกันด้วยล่ะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: people
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น