เรื่องราวของนางแบบชาวไต้หวันที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการตามแก้ข่าวกับปัญหาที่ตัวเธอไม่ได้ก่อ หลังจากที่ภาพถ่ายโฆษณาของเธอถูกปั่นให้กลายเป็นข่าวที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงกับตัวเธอเอง และกลายเป็นมีมล้อเลียนทำลายชีวิตและอาชีพนางแบบ
Heidi Yeh
ในปี 2012 สื่อหลายสำนักในต่างประเทศต่างเล่นข่าวเรื่องของนักธุรกิจชาวจีนฟ้องร้องภรรยาฐานหลอกลวงว่าความงามของเธอนั้นไม่ได้ผ่านมีดหมอมา
โดยเขาระบุว่าความงดงามของภรรยานั้นเกิดขึ้นมาจากการทำศัลยกรรม และได้รู้ความจริงทั้งหมดหลังจากที่มีลูกสาวด้วยกันแต่ทว่าไม่ได้ดูงดงามเหมือนแม่
และเรื่องเช่นนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกและไวรัลไปทั่วอินเทอร์เน็ต พร้อมกับภาพประกอบที่เป็นปัญหาจนทำลายชีวิตของคนในภาพจริงๆ
แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานกว่า 8 ปีแล้ว คุณอาจจะได้เห็นภาพนั้นในโลกออนไลน์อยู่บ้าง ที่เผยให้เห็นภาพถ่ายครอบครัวมีพ่อแม่ลูก ถูกนำมาใช้นำเสนอในบทความข่าวของจีนและนางแบบสาวในภาพคือ Heidi Yeh ชาวไต้หวันที่หมดเส้นทางอาชีพนางแบบและชีวิตส่วนตัวจากภาพนั้น
หลังจากภาพนั้นเริ่มแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์และกลายมาเป็นมีมล้อเลียนที่ได้รับความนิยมด้วยใจความว่า ‘ศัลยกรรมพลาสติก ปิดบังได้ไม่หมด’ หรือไม่ก็เกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวไปข้างต้น
คนก็เริ่มเชื่อว่าผู้หญิงในภาพนั้นคือคนในข่าวจริงๆ และการศัลยกรรมเสริมความงามที่ไม่ได้ส่งต่อไปถึงลูกๆ ของเธอก็ถูกยกนำมาเปรียบเปรยให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
Heidi กล่าวว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งมันยิ่งเริ่มแย่ส่งผลมาถึงเพื่อนใกล้ชิดตัวเธอที่รู้จักกันมานานหลายปี ถึงขั้นถามว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่าที่เธอไปทำศัลยกรรมมา
ประกอบกับช่วงนั้นแฟนหนุ่มของ Heidi ก็อยากจะเลิกกับเธอหลังจากที่เธอถูกกดดันจากเรื่องภาพลักษณ์ในโลกออนไลน์ และยิ่งหนักไปกว่านั้นเอเจนซี่ที่ถ่ายภาพดังกล่าว ก็บ่ายเบี่ยงไม่ชี้แจงช่วยเธอเลย
“คนปฏิเสธที่จะเชื่อว่าฉันไม่เคยทำศัลยกรรม ลูกค้ามักจะถามฉันว่าฉันเป็นผู้หญิงในภาพนั้นรึเปล่า หลังจากนั้นฉันก็ได้รับงานเล็กๆ ในโฆษณาเท่านั้น”
ในปี 2015 สามปีหลังจากเกิดเรื่อง Heidi เริ่มปรากฎตัวต่อหน้าสื่อต่างๆ เพื่อชี้แจงว่าภาพถ่ายที่วนเวียนอยู่ในโลกออนไลน์นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับข่าวในสื่อจีน แต่มันคือภาพถ่ายสำหรับโฆษณาคลีนิกทำศัลยกรรม โดยตั้งใจใช้โปรโมตผ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารโดยคลีนิกเองเท่านั้น
Heidi ระบุเพิ่มเติมว่าเอเจนซี่โฆษณา J Walter Thompson ได้ขายภาพและอนุญาตให้คลีนิกศัลยกรรมที่อื่นนำภาพไปใช้ได้เช่นกัน
จนกระทั่ง Simple Beauty คลีนิกที่เป็นต้นเหตุตัดต่อภาพเพิ่มเติม เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเด็ก 3 คนที่อยู่ในภาพให้ดูแย่ลง
พร้อมกับใส่แคปชั่นแสบๆ ว่า “สิ่งเดียวที่คุณจะต้องกังวลคือการอธิบายความจริงให้เด็กฟัง” ซึ่งกลายมาเป็นเชื้อไฟใส่ความให้ข่าวจากจีนนั้นแรงขึ้นไปอีก
ในการแถลงข่าวนางแบบ Heidi ระบุว่าตัวเธอและทนายความได้ร้องขอให้ทั้งเอเจนซี่และคลีนิกต้นเรื่องลบภาพนั้นออกไป แต่กว่าจะลบก็ผ่านไปหลังจากเกิดงานแถลงข่าวทั้งที่เรื่องเกิดขึ้นมานานแล้ว
ทางเอเจนซี่ระบุว่าพวกเขาถือลิขสิทธิภาพนี้ และมีสิทธิในการตัดต่อและใช้งานภาพเมื่อเห็นว่าเหมาะสม แต่ทางทนายความเห็นต่าง อ้างว่านางแบบเป็นผู้มอบสิทธินั้นแก่เอเจนซี่ ไม่ใช่ตัวลูกค้า
“เท่าที่พวกเราทราบกันดี ไม่มีใครคุมโลกอินเทอร์เน็ตได้ เราไม่สามารถคาดเดาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ คนจะมองมันในมุมไหน และพวกเขาจะทำยังไงกับมัน” เอเจนซี่กล่าวถึงประเด็นนี้และมีแผนที่จะฟ้องนางแบบกลับในฐานทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์
ในระหว่างที่เกิดเป็นประเด็นใหญ่โต บางคนกล่าวหาว่า Heidi Yeh กำลังฉวยโอกาสในการหวนคืนกลับสู่วงการนางแบบ แต่เธอระบุว่าเป็นเพราะการถูกพูดถึงในภาพนั้นมากกว่า ไม่ใช่เพียงแต่ตัวเธอเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงเด็กที่อยู่ในภาพอีก 3 คนที่ถูกตัดต่อโดยคลีนิก Simple Beauty
“ฉันทนมองภาพนั้นไม่ได้ เด็กๆ อาจจะยังไม่เข้าถึงโลกโซเชียล แต่มันจะกลับมาทำร้ายพวกเขาเมื่อโตขึ้น”
เรื่องอื้อฉาวก็เริ่มซาลงไปเรื่อยๆ แต่ทว่าภาพเจ้าปัญหาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ดีไม่มีท่าทีว่าจะหายไปไหน ทางสื่อไต้หวันเองก็เริ่มกลับมาเล่นประเด็นนี้อีกรอบ
โดยระบุว่า Heidi Yeh นั้นกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดในเทศมณฑลหนานโถว ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการเลี้ยงลูกและพบปะกับเพื่อนสนิท
เธอยังคงรับงานโปรโมทผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสินค้าอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ไม่ได้ทำงานในสายอาชีพนางแบบแล้ว
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: petapixel, stuff.co.nz, shanghaiist
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น