ท่ามกลางย่าน Đống Đa สังคมเมืองที่ไม่ค่อยมีพื้นที่สีเขียวในกรุงฮานอย แต่กลับมีอาคารอพารท์เมนท์ขนาด 5 ชั้นที่กลายมาเป็นสวนหย่อมแนวตั้งที่มีชีวิตชีวาและม่านพืชพรรณสีเขียวปกคลุมอยู่เช่นนี้
อาคารดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นอาคารมีชีวิตแห่งกรุงฮานอย บรรจงสร้างสรรด้วยความเอาใจใส่ของศาสตราจารย์ Hoang Nhu Tang อดีตอาจารย์วิศวกรรมโยธาประจำมหาวิทยาลัยฮานอย
เขาเริ่มปลูกไม้เลื้อยเมื่อ 30 ปีก่อน หลังจากที่อาคารแห่งนี้กลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดแห่งแรกในย่าน แต่ด้วยความสูงของอาคารทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดด นั่นหมายความว่าในช่วงฤดูร้อนจะร้อนมากจนแทบอยู่ไม่ได้
.
ศาสตราจารย์ Hoang Nhu Tang จึงตัดสินใจเริ่มปลูกไม้เลื้อยสองต้นที่มีความสามารถในการกรองแสงแดด และช่วยปรับอุณหภูมิของอาคารเมื่อไม้เลื้อยโตขึ้น
และไอเดียของเขาก็บรรลุผลใน 3 ทศวรรษต่อมา พืชพรรณไม้เลื้อยเติบโตตามวัตถุประสงค์อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดในย่านใจกลางเมือง
“ในปี 1990 ย่านนี้ยังมีแต่อาคารที่ไม่สูงมาก พอแสงแดดสาดลงมาที่ตึกตลอดทั้งวันมันก็ยากที่จะอยู่อาศัย ผมก็เลยเลือกปลูกไม้เลื้อยเพื่อลดปริมาณแสงแดดที่จะเข้ามาในบ้านครับ”
หากมองไกลๆ แล้วอาคารแห่งนี้ดูเหมือนจะถูกปกคลุมเต็มไปด้วยพืชพรรณหลายชนิด แต่จากการสอบถามอดีตอาจารย์ท่านนี้ เขากล่าวว่าจริงๆ แล้วก็มีแค่ไม้เลื้อยสองชนิดที่เริ่มปลูกมา ปลูกไว้ทั้งสองฝั่งของตัวอาคารและวางโครงให้มันเลื้อยไปเองตามทางที่กำหนดจนถึงชั้นบนสุด
ศาสตราจารย์เริ่มวางโครงจากด้านนอกอาคาร ด้วยการใช้ไม้ประกอบกับโครงเหล็กและสายเคเบิลพลาสติก เขากล่าวว่าใช้เวลาประมาณ 8-9 ปีในการที่มันจะเติบโตเต็มที่จนปกคลุมอาคารทั้งหมด
ซึ่งก็ยอมรับว่าการกำหนดทางให้มันเลื้อยไปนั้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่มาจนถึงปัจจุบันนี้งานของเขาก็เหลือเพียงแค่เล็มส่วนที่เกินออกมา 1-2 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น
“หลายคนบอกผมว่าไม้เลื้อยพวกนี้จะดึงดูดยุงเข้าบ้าน แต่ในทางกลับกันมันก็ช่วยทำหน้าที่เป็นม่านธรรมชาติ อากาศรอบบ้านสดชื่น เย็น และที่จริงแล้วบ้านผมไม่มียุงเลย บ้านของผมเป็นสถานที่ที่สงบมาก และช่วยให้คนในย่านนี้ได้อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติท่ามกลางสังคมเมืองด้วยครับ”
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น