CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

สาวเป็นงง จู่ๆ ถูกมีชายมาทวงหนี้ ‘กู้นอกระบบ’ ถึงบ้าน พบมีคนเอาสำเนาบัตรประชาชนไปกู้!!

‘บัตรประจำตัวประชาชน’ เป็นอีกหนึ่งเอกสารสำคัญที่เราต้องระมัดระวังเวลาที่จะใช้งาน หรือแม้กับการถ่ายสำเนา เพราะบางทีหากเอกสารนี้ไปตกอยู่ในมือของมิจฉาชีพ ก็อาจทำให้เราต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน

อย่างเช่นในกรณีของผู้ใช้เฟซบุ๊กคนนี้ ที่เธอถูกเอาสำเนาบัตรประชาชนไปกู้นอกระบบ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็มีชายร่างใหญ่มาทวงหนี้ถึงบ้านซะแล้ว!!

เฟซบุ๊ก Patcharin Sritawong เป็นผู้เล่าถึงกรณีดังกล่าว และนี่คือแคปชั่นที่เขียนอธิบายเอาไว้

 

เอกสารประกอบโพสต์

 

“#ไม่คิดว่าจะโดนกับตัวเอง ปกติเวลาจะเซ็นสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนให้ใคร จะทำธุรกรรมอะไรก็แล้วแต่ จะขีดฆ่าเขียนกำกับ ลงวันที่ ใช้เพื่ออะไรทุกครั้ง

แต่แล้วก็โดนมีคนเอาบัตรประจำตัวประชาชนเราไป #กู้เงินนอกระบบโดยที่เราไม่รู้

จนกระทั่งเมื่อวันพุธมีผู้ชายร่างใหญ่ 2 คนมาตามหาเราถึงบ้าน เราก็บอกไม่ใช่เราเราไม่เคยไปกู้เงินใคร บัตรประจำตัวประชาชนนะของเรา แต่ลายเซ็นและเบอร์โทรศัพท์ไม่ใช่ของเรา

 

 

คนทวงหนี้บอกว่า เจ้ เจ้าของเงิน ไปแจ้งความที่โรงพักชลบุรี แล้วว่า “ฉ้อโกง” ซึ่ง 1 ในจำนวนบัตรประจำตัวประชาชน 1 ปึก มีบัตรประจำตัวประชาชนของเราด้วย

นั่งคิดนอนคิดว่าไปทำหล่นทำหายทำพลาดไว้ตรงไหน จนกระทั่งขอนัดเจรจากับกองปราบ กองปราบรู้ตัวแล้วว่า ใครเอาบัตรประจำตัวประชาชนเราไป

วันนี้เราเลยไปโรงพัก พอเจอหน้าเด็กคนที่เอาบัตรประจำตัวประชาชนเราไป คำถามแรก เอาบัตรพี่มาจากไหน ?

พี่หนูทำงานอยู่ #Index หนูแอบถ่ายตอนที่พี่ไปสมัครบัตรหรือตอนที่ผู้เสียหายคนอื่นๆ เอาบัตรไปแลกแต้ม หนูถ่ายมาจากตัวจริงบ้างบางครั้งก็ใช้มือถือ ถ่ายไว้ #แล้วเอาสำเนาบัตรไปใช้กู้เงิน

 

 

โอ้ยตายแล้วนี่แสดงว่าเราต้องเพิ่มความรอบคอบให้มากขึ้นกว่าเดิม จะให้บัตรใครไปไม่ได้เลย เพราะเราไม่รู้เลยว่า เขาจะเอาบัตรเราไปทำอะไรนอกจากนั้นบ้าง

บทเรียนอีกอย่างหนึ่งที่คิดว่าป้องกันดีแล้วยังพลาด

ที่โพสต์เพื่อต้องการเตือนพี่ๆ เพื่อนๆ ให้ระมัดระวังตัว ในการใช้บัตรประจำตัวประชาชน ไม่ได้มีเจตนา ทำให้ใครได้รับความเดือดร้อนค่ะ ??

25-07-2562″

 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นถูกแชร์ออกไปถึง 10,000 ครั้งแล้ว ซึ่งก็มีความเห็นชาวเน็ตอย่างมากมายในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และแน่นอนว่าจากเคสของสาวคนนี้ เราคงต้องระมัดระวังตัวกันมากยิ่งขึ้น

 

.

.

.

.

 

เรียบเรียงโดย: #เหมียวจิวยี่ 

Comments

ใส่ความเห็น