นักวิทยาศาสตร์ชี้ ชาวอินคาอาจจงใจทิ้งร่างเหยื่อบูชายัญเด็กไว้บนเขา เพื่อให้โดนฟ้าผ่า

ย้อนกลับไปในช่วงปีศตวรรษที่ 15-16 ในทางอเมริกาใต้ จักรวรรดิอินคากำลังอยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่ารุ่งเรืองที่สุดเลยก็ไม่ผิดนัก โดยในช่วงเวลานั้น มีเด็กจำนวนมากที่ถูกส่งขึ้นไปบนภูเขาไฟ เพื่อเป็นเหยื่อบูชายัญแก่ทวยเทพ

ในบรรดาเด็กที่สละชีวิตไป มีอยู่หลายคนที่ร่างกายถูกเก็บรักษาไว้โดยสภาพอากาศจนหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันในสภาพมัมมี่ และในบรรดามัมมี่เหล่านี้เองก็มีอยู่หลายร่างเช่นกันที่มีร่องรอยถูกฟ้าผ่าจากการที่ศพถูกทิ้งไว้บนที่สูงเป็นเวลานาน

 La niña del rayo หรือ “เด็กสาวแห่งสายฟ้า” หนึ่งในมัมมี่เด็กอินคาที่มีร่องรอยถูกฟ้าผ่า

ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ใส่ใจการที่ศพเหยื่อบูชายัญโดนฟ้าผ่าเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขาคิดว่ามันเป็นเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เมื่อล่าสุดนี้เอง ก็มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งที่ออกมานำเสนอแนวคิดใหม่ที่ว่า การที่ศพเด็กถูกฟ้าผ่าอาจจะเป็นเป้าหมายจริงๆ ของคนอินคาโบราณก็เป็นได้

อ้างอิงจากรายงานของ “Science in Poland” (PAP) เว็บไซต์วิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลโปแลนด์ นักโบราณคดีชีวภาพได้เข้าทำการตรวจสอบมัมมี่เด็กอายุ 500 ปีหลายร่าง ซึ่งถูกพบบนภูเขา Ampato และ Pichu Pichu ในเทือกเขา Andes และพบว่ามีเด็กจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อที่มีร่องรอยการโดนฟ้าผ่า

จำนวนเด็กที่ออกมาผิดปกติมากจนมันไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ กลับกันดูเหมือนว่าแม้แต่เด็กบางคนที่ถูกบูชายัญบนที่ราบเอง ร่างของพวกเขาก็จะถูกขนขึ้นไปทิ้งไว้ที่แผ่นหินบนภูเขาเพื่อรอให้ฟ้าผ่าลงมาใส่ร่างเด็กดังกล่าวเลยด้วย

สิ่งที่พบนี้เองทำให้นักวิทยาศาสตร์มองว่าชาวอินคาในอดีตอาจจะมีความเชื่อว่าการที่ฟ้าผ่าร่างของเหยื่อบูชายัญเป็นสัญญาณที่ว่าเหล่าทวยเทพพอใจกับการบูชายัญครั้งนั้นๆ ก็เป็นได้ เนื่องจาก

“อ้างอิงจากเผ่าอินคา การที่คนที่ถูกฟ้าผ่าจะถือว่าเป็นเรื่องที่มีเกียรติมากๆ เพราะมันหมายถึงพระเจ้าแสดงความสนใจในบุคคลนั้น” คุณ Dagmara Socha นักโบราณคดีชีวภาพจากศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยวอร์ซอว์กล่าวในรายงาน

กระโหลกของเด็กชายชาวอินคา ที่มีร่องรอยการถูกฟ้าผ่า

ด้วยความที่เผ่าอินคาตั้งรกรากอยู่ใกล้เขาสูงหลายลูก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักที่พวกเขาจะพบกับเหตุฝนฟ้าคะนองอยู่บ่อยครั้ง และเช่นเดียวกับความเชื่ออื่นๆ ในโลกพวกเขามองว่าสายฟ้ามีความเกี่ยวข้องกับเทพ

ในกรณีนี้คุณ Socha บอกว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะมองว่าสายฟ้าและเด็กจะเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับทวยเทพ โดยเธอได้ให้คำอธิบายเพิ่มเต็มเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

“ชาวอินคาถือว่าเด็กๆ นั้นบริสุทธิ์และไม่เคยถูกแตะต้อง สถานะของพวกเขาจึงน่าจะเอื้อต่อการชักจูงพระเจ้าในการตัดสินใจอะไรบางอย่างได้”

ทั้งนี้เองนอกจากความเป็นไปได้ที่ว่าชาวอินคาทิ้งศพไว้ให้ฟ้าผ่าแล้ว ในการตรวจสอบศพเหยื่อบูชายัญของชาวอินคา นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังพบเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องของวิถีชีวิตเหยื่อบูชายัญด้วย

นั่นเพราะหนึ่งในเด็กมีร่องรอยการการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างเคลือบฟัน แสดงให้เห็นว่าในตอนเด็กเธอเคยอดอยากหรือพบกับความเครียดรุนแรงในตอนที่เป็นทารก ซึ่งเป็นไปได้ว่าเกิดจากการที่เธอถูกพรากจากแม่เพื่อเป็นเหยื่อบูชายัญนั่นเอง

ที่มา allthatsinteresting, newsweek, dailymail และ iflscience