นักวิทย์คิดนอกกรอบ นำขนนกอัดยาฆ่าแมลงไปทิ้งไว้ในป่า ช่วยชีวิตนกหายากใกล้สูญพันธุ์

สำหรับนักวิทยาศาสตร์ในรัฐแทสเมเนียของออสเตรเลีย นกตัวเล็กๆ ในเครือญาติของนกกระจ้อยอย่าง Pardalotus quadragintus จัดว่าเป็นนกหายากที่สุดแสนน่ารักของผืนป่าเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม นกสายพันธุ์นี้กลับต้องถูกคุกคามโดยภัยร้ายจากปรสิต จนทำให้นกที่มีน้อยอยู่แล้ว ยิ่งใกล้สูญพันธุ์เข้าทุกวัน

ดังนั้นมันจึงนับว่าเป็นโชคดีมาก ที่เมื่อล่าสุดนี้เอง ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสามารถหาวิธีการที่จะช่วยเจ้านกน้อยพวกนี้ได้แล้ว แม้ว่าวิธีการของพวกเขาจะเป็นวิธีแปลกๆ อย่างการอัดยาฆ่าแมลงลงบนขนนกก็ตาม

อ้างอิงจากรายงานที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Animal Conservation ก P. quadragintus ในปัจจุบันกำลังประสบปัญหารุนแรงจากแมลงวันกาฝาก ที่มักจะวางไข่ในรังของนก เพื่อให้ตัวอ่อนแมลงวันดูดเลือดจากลูกนก

โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปรสิตพวกนี้ได้ทำให้ลูกนกกว่า 90% ไม่มีโอกาสรอดไปจนโต ซึ่งถือว่าสูงเกินไปมากจนนักวิทยาศาสตร์ ต้องออกมาทำอะไรสักอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ในตอนแรกพวกเขาได้ลองใช้การฉีดยาฆ่าแมลงแบบไม่เป็นอันตรายกับนก (ซึ่งปกติเราใช้กับนกเลี้ยงอยู่แล้ว) ตามรังของ P. quadragintus

แต่ก็ต้องพบว่าวิธีการนี้ ใช้งานได้จริงค่อนข้างยาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ต้องหารังของนกให้พบก่อน

อย่างไรก็ตาม คุณ Fernanda Alves นักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ก็มีความคิดขึ้นมาว่า

จะเกิดอะไรขึ้นหากเราเอาขนนกจำนวนมากๆ มาอัดยาฆ่าแมลง ก่อนจะนำมันไปกองไว้กลางป่า เพื่อฆ่าปรสิตพวกนี้กัน

นี่อาจจะเป็นวิธีการที่ฟังดูแปลกอยู่บ้าง แต่ก็ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นเพราะนก P. quadragintus เป็นนกที่มักจะออกรวบรวมขนนกไปทำรังอยู่แล้ว

ดังนั้นพวกมันจึงมักจะนำขนนกที่นักวิทยาศาสตร์ทิ้งไว้กลับไปทำรัง และป้องกันปรสิตได้โดยที่นักวิทยาศาสตร์ไม่ต้องออกหารังนกเองด้วยซ้ำ

“ผลลัพธ์ที่ได้นั้นยอดเยี่ยมมาก พวกนกนำขนพวกนี้กลับไปที่รังและผลที่ตามมาคือ 95% ของลูกนกในรังเหล่านั้นรอดชีวิต ในขณะที่นกที่ใช้ขนอื่นๆ มีอัตราการรอดชีวิตเพียง 8% เท่านั้น” คุณ Fernandaกล่าว

เรียกได้ว่านี่เป็นการแก้ปัญหาแบบนอกกรอบที่น่าสนใจอีกชิ้นหนึ่งของนักวิทยาศาสตร์เลยก็ว่าได้ และแม้ว่าในปัจจุบัน และแม้ผลงานของพวกเขาจะยังถือว่าอยู่ในขั้นทดลองก็ตาม

แต่หากนำไปใช้จริงอย่างแพร่หลาย มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าพวกเขาจะสามารถช่วยชีวิตนกใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้ ได้อีกมากมายหลายตัวเลย

ที่มา iflscience และ zslpublications