CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ญี่ปุ่นประกาศตั้งรัฐมนตรี “กระทรวงความเหงา” ตั้งเป้าสู้ปัญหาความโดดเดี่ยวของประชาชน

นับว่าเป็นอีกข่าวที่ค่อนข้างน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เมื่อในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานาย “โยชิฮิเดะ ซุกะ” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของญี่ปุ่น

ได้ออกมาประกาศได้แต่งตั้งให้นาย “เทตสึชิ ซากาโมโตะ” รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภูมิภาค ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี “กระทรวงความเหงา” คนแรกของประเทศอีกตำหน่ง

 

เทตสึชิ ซากาโมโตะ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภูมิภาค และรัฐมนตรีกระทรวงความเหงาคนแรกของญี่ปุ่น

 

โดยการแต่งตั้งในครั้งนี้เกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาความเหงาและความโดดเดี่ยวของผู้คนในประเทศ ที่กำลังค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ซึ่งส่งผลกระทบให้ในช่วงปี 2020  มีการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น จากความเหงาและการห่างเหินทางสังคม โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิงและเยาวชน

 

 

“ในปัจจุบันผู้หญิงกำลังมีความทรมานจากความโดดเดี่ยวมากกว่าผู้ชายแล้ว และจำนวนการฆ่าตัวตายก็มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย” นายกรัฐมนตรีซุกะกล่าวกับรัฐมนตรีซากาโมโตะ

“ดังนั้นผมจึงหวังเป็นอย่างมาก ว่าคุณจะสามารถตามหาต้นตอของปัญหา และเสนอนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหานี้อย่างครอบคลุมได้”

 

โยชิฮิเดะ ซุกะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของญี่ปุ่น

 

การตัดสินใจในครั้งนี้ ทำให้ประเทศญี่ปุ่นตามรอยประเทศอังกฤษไปในฐานะประเทศที่มีรัฐมนตรี กระทรวงซึ่งรับหน้าที่จัดการปัญหาความเหงา

โดยในกรณีของประเทศอังกฤษพวกเขามีการแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวงดังกล่าวไปตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา และเป็นประเทศแรกที่มีการจัดตั้งกระทรวงนี้ถึงเลย

 

Tracey Elizabeth Anne Crouch รัฐมนตรีกระทรวงความเหงาคนแรกของอังกฤษ

 

นี่นับเป็นนโยบายที่หากฟังแบบเผินๆ อาจจะเป็นอะไรที่ดูไม่สำคัญมากนักก็จริงอยู่แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ ประเทศก็เริ่มตระหนักแล้วว่าความเหงานั้นเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประเทศมากกว่าที่คิด

นั่นเพราะความเหงานั้นมักนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อเช่นโรคเบาหวาน หรือหัวใจ แถมยังมักทำให้ผู้คนที่เป็นแรงงานของชาติมีพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพมากขึ้นด้วย

ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงเราที่เราจะบอกว่าความเหงาของผู้คนนั้น ในปัจจุบันได้การเป็นวาระสำคัญ ที่หลายๆ ประเทศกำลังจับตามองกันไปแล้ว

 

ที่มา asahi, nextshark


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น