CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

เรื่องเล่าชีวิตของป๋า Johnny Depp กับวัยเด็กที่ถูกทารุณ ความทะเยอทะยาน และความสำเร็จ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2020 ที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันเกิดของป๋า Johnny Depp ค่ะ ซึ่งป๋าของพวกเรามีอายุครบ 57 ปีแล้วน้า แถมปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ป๋าต้องเจอเหตุการณ์อะไรหนักๆ มามากมายจริงๆ

แต่กว่าที่ป๋าจะผ่านเรื่องราวชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้มันไม่ได้ง่ายเลย ทุกคนเห็นว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาของป๋ามันดูหนักแล้วใช่ไหม จริงๆ แล้วชีวิตของป๋ามันหนักหนามากกว่านั้นเสียอีกค่ะ เรียกได้ว่ากว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จได้แบบนี้มันยากเย็นมากจริงๆ

 

 

และเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของป๋า (นับตามไทม์โซนอเมริกานะอิอิ) #เหมียวนานะ เลยอยากจะมาเล่าประวัติของป๋ากันว่ากว่าเขาจะเข้ามาสู่จุดสูงสุดนี้ได้เขาต้องเผชิญกับเรื่องราวอะไรบ้าง…

 

 

ชีวิตวัยเด็กที่ไม่ได้เรียบง่าย

ป๋าเดปป์เป็นน้องคนสุดท้องของบ้าน เกิดที่เมืองโอเวนสโบโร ในรัฐเคนทักกี กับพี่น้องอีก 4 คน ซึ่งเป็นลูกติดของแม่เลี้ยง 2 คนและเป็นพี่ชายของตนเองอีก 1 คน

ชีวิตในวัยเด็กของป๋าไม่ได้ง่ายค่ะ ป๋าเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของดวงตาข้างซ้ายที่เบลอจนแทบจะมองไม่เห็น แต่ป๋าก็ไม่หวั่นเพราะกิจกรรมที่โปรดปรานในวัยเด็กของเขาคือการวิ่งไล่จับแมลงกับคุณตา

 

 

จนกระทั่งคุณตาเสียชีวิตลงเมื่อตอนที่เขาอายุ 7 ขวบ ตั้งแต่นั้นทางบ้านก็เริ่มย้ายไปนั่นไปนี่บ่อยขึ้น สถานการณ์ทางบ้านเริ่มแย่ลงทำให้ป๋าเดปป์กลายเป็นเด็กเงียบๆ และมีเรื่องชกต่อยกับเด็กคนอื่นอยู่บ่อยๆ

นอกจากนี้คุณพ่อกับคุณแม่ก็เริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นทุกๆ วันค่ะ และเนื่องด้วยป๋าเป็นน้องคนสุดท้องจึงทำให้เขาโดนแม่เลี้ยงสบถคำหยาบ ขว้างปาสิ่งของและทุบตีอยู่บ่อยๆ

ส่วนคุณพ่อเองก็ไม่ได้ห้าม เพราะสิ่งที่คุณพ่อทำคือการใช้เข็มขัดตีป๋าอยู่บ่อยๆ เช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาเริ่มหันหน้าไปพึ่งดนตรีและยาเสพติด…

 

 

การสูบบุหรี่ครั้งแรกของเด็กอายุ 12 ปี

ป๋าเดปป์เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ในเว็บไซต์ People ว่าเขาเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 12 ปี จากนั้นก็เริ่มดื่มและเสพยาต่อตอนช่วงอายุ 14 ปี ในปี 1997 เขาเล่าให้ทางเว็บไซต์ Vanity Fair ฟังว่า

 

 

“ตอนนั้นจอห์นนี่ไม่มีความสุขเลยครับ มันเหมือนเป็นช่วงเวลาดาร์คๆ ของผม

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่มันเหมือนผมวางยาตัวเอง เสพยาและดื่มเหล้าเยอะมาก สุขภาพผมแย่มากเลย”

 

 

ช่วงวัยรุ่นของป๋าเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ หลังจากที่พ่อแม่หย่ากันเขาก็ลาออกจากโรงเรียนและเริ่มมาประกอบอาชีพต่างๆ หลักๆ ที่เขาชอบก็คือร้องเพลงตามผับต่างๆ

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตั้งวงดนตรีชื่อว่า Kids ขึ้นมา ซึ่งดังแค่แถบนั้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงเดินทางเข้า L.A. เพื่อความฝันอยากเป็นนักดนตรีจริงๆ

 

 

เริ่มชีวิตแต่งงานกับหญิงสาวที่พาเข้าสู่วงการ

พอป๋าเดปป์อายุได้ 20 ปี เขาก็แต่งงานกับสาวช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายนามว่า Lori Anne Allison ค่ะ แต่แต่งได้สักแปบก็เลิกรากันไป

อย่างไรก็ตาม สาวลอริแอนน์น่ารักมาก เพราะเธอได้ทำการแนะนำให้ป๋ารู้จักกับตัวแทนภาพยนตร์ ซึ่งแน่นอนว่าตัวแทนถูกใจป๋ามากจึงทาบทามให้มาลองออดิชั่นบทบาทดู

 

 

จนสุดท้ายป๋าก็ได้มาเล่นในภาพยนตร์เรื่อง A Nightmare on Elm Street (1984) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาและโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

 

“ผมใช้เวลาหลายปีในการวางยาตัวเอง ผมรู้สึกดีมากเลยนะ แต่สุดท้ายก็ต้องมาเจอกับการตัดสินใจที่สำคัญว่า

ผมอยากจะเป็นไอ้งั่งแบบนี้ต่อไปจริงๆ เหรอ? ผมเลยหยุด

พอตอนนี้ผมหันกลับไปมองตัวเองผมก็คิดว่า ‘ทำไม? ทำไมแกถึงทำแบบนั้นกัน?’”

 

 

นี่คือคำพูดของป๋าที่ให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 2005 ค่ะ เรียกได้ว่ากว่าเขาจะประสบความสำเร็จต้องแลกกับความอดทนและการเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะแยะไปหมดจริงๆ

ดีแล้วที่ป๋าผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาได้ ต่อไปนี้ก็ขอให้ป๋ามีความสุขมากๆ น้าา

 

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: hindustantimes

Comments

ใส่ความเห็น