เราอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “รอยสักมีผลต่อการรับเข้าทำงาน” ทว่าในปัจจุบัน หลายๆ อาชีพ หลายๆ บริษัท หลายๆ หน่วยงานก็โอเคกับรอยสักในร่มผ้า คือขอแค่ไม่พ้นออกมาให้เห็นจากชุดทำงานก็ถือว่าได้อยู่
แต่สำหรับคุณพ่อลูกสามคนนี้ เขาเองมีทั้งรอยสักนอกร่มผ้าและในร่มผ้า แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปรับใช้ชาติได้นั้นกลับเป็นเพราะรอยสักในร่มผ้าของเขาเสียแทน
Kevin Price และแฟนสาว
Kevin หนุ่มชาวอังกฤษวัย 28 ปี เขาต้องการที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอังกฤษในหน้าที่วิศวกรไฟฟ้าและเครื่องกล ข้อมูลการทดสอบของเขาทุกอย่างผ่านหมด ติดตรงที่เรื่องของรอยสักเพียงอย่างเดียว
คือ Kevin มีรอยสักบริเวณต้นแขนจนถึงข้อมือ ทว่ารอยสักในส่วนนี้กลับไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหา เพราะปัญหาจริงๆ ของเขาคือรอยสักบริเวณต้นขา…
ที่มันดันเป็นรูป ‘ไอ้จ้อน’ เนี่ยน่ะสิ?!
Kevin เล่าว่าในปี 2018 เขาดื่มกับเพื่อนไปหนักมาก แล้วเพื่อนของเขาก็ดันบอกว่ามีอุปกรณ์สักลายอยู่ที่ห้อง และตอนนั้นเขาเองก็คิดเล่นๆ ว่าอยากจะได้รอยสักรูปไอ้จ้อนอยู่พอดี
งานนี้พี่แกก็เลยได้รอยสักดังกล่าวมาสมดั่งใจปรารถนา ซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่กล้าที่จะบอกแฟนตัวเองด้วยซ้ำไป แต่พอผ่านไป 3 เดือน เมื่อเธอมาเห็นเข้า เธอก็ถึงกับอึ้งในขนาดรอยสักที่ยาวกว่า 6 นิ้วนี้ไปเลย
ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยคิดเสียใจกับรอยสักที่ได้มา เขากลับมองว่าเป็นเรื่องตลกดีด้วยซ้ำ เพราะช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาเขาใส่กางเกงขาสั้นเดินชายหาดจนรอยสักโผล่ ทำให้มีชาวต่างชาติจำนวนมากมาขอถ่ายรูปด้วย
เขาเลยมองว่ารอยสักที่มีนี้ช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับคนอื่นๆ ได้
ถึงอย่างนั้น เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา ทางกองทัพอังกฤษที่ได้เห็นรอยสักของเขาไปแล้วก็ถึงกับบอกเลยว่า รอยสักดังกล่าวนั้นมันดูน่ารังเกียจ และเหมือนเป็นการคุกคามผู้อื่น สามารถทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดีได้
ขณะเดียวกัน Kevin กลับไม่เห็นด้วยในคำอธิบายของทางกองทัพที่ไม่รับเขา โดยบอกว่า…
“ที่พวกเขาอธิบายมามันฟังดูเป็นเรื่องตลก เพราะผมก็คงไม่ใส่บอกเซอร์หรือกางเกงขาสั้นเดินออกไปไหนเป็นประจำหรอก?! ผมคิดว่าคนตรวจสอบนั้นคงจะอิจฉาที่ผมมีไอ้จ้อนใหญ่กว่าเขาถึง 2 อันด้วยกัน”
ท้ายที่สุดแล้ว Kevin จึงหมดโอกาสรับใช้ชาติ
และต้องหันกลับไปทำงานเป็นคนขับแท็กซี่ต่อไป
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น