กลายมาเป็นประเด็นที่ทำให้ชาวเน็ตจากจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายไม่พอใจ กับการลงประกาศหน้าเพจของสูนย์อำนวยการคำชะโนด จังหวัดอุดรธานี
หลังจากที่มีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียง และลงประกาศว่า ‘ไม่รับนักท่องเที่ยวที่มาจาก 2 จังหวัดดังกล่าว’
โพสต์จากเพจศูนย์อำนวยการคำชะโนดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ระบุใจความโดยรวมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอความร่วมมือจากคณะกรรมการคำชะโนด ไม่รับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2563
“เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพื่อให้การควบคุมโรคไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด จึงขอให้คณะกรรมการคำชะโนดไม่รับนักท่องเที่ยวที่มาจาก 2 จังหวัดดังกล่าว จนถึงวันที่ 14 ธ.ค. 63 ขออภัยนักท่องเที่ยวในความไม่สะดวกนะคะ”
ปรากฎว่าในช่วงเวลาต่อมาชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจกับท่าทีดังกล่าวของทางผู้ดูแลเกาะคำชะโนด จากประกาศห้ามรับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ถูกมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจนำโรคโควิด-19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่ ถึงขั้นแบนจะไม่ไปเที่ยวอีก

รวมไปถึงความรู้สึกของคนในจังหวัดที่ถูกห้ามเข้าไปเที่ยวที่คำชะโนด ได้เห็นป้ายแปะประกาศห้ามเช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปใหญ่
“ในฐานะผมเป็นคนจังหวัดเชียงรายและมาอาศัยทำงานที่ เชียงใหม่ ได้เห็นข้อความที่ประกาศจากพวกคุณแบบนี้แล้วเสียความรู้สึกเป็นอย่างมากครับ พวกผมใช่ตัวนำเชื้อโรคซะที่ไหนครับ ที่มีการแพร่เชื้อก็เพราะคนอื่นนำเข้ามา
แต่คนเชียงราย เชียงใหม่ อยู่ได้เพราะมีการป้องกันอย่างดี ไม่เป็นที่น่ารังเกียจหรอกครับ แต่ถ้าพวกคุณห้าม คนจังหวัดของพวกผมขนาดนี้ ก็ขอบคุณมากครับที่ได้เห็นการมีน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ แล้วก็ขอให้รู้ด้วยว่าพวกคุณไม่ต้อนรับพวกผมออกสื่อขนาดนี้
แต่พวกผมก็ยังต้อนรับทุกคนที่จะไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ อย่างยิ่งทุกๆคน ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น อย่าลืมไปแอ่วเหนือนะครับ
(เพราะพวกผมไม่ได้ใจแคบ และมีสมองแยกแยะ พ่อแม่พวกผมสอนมาดี และพวกผมก็พอจะมีการศึกษา ที่ได้เรียนมา ครูบาอาจารย์สอนให้มีน้ำใจ ไม่ให้ใช้แสดงกิริยาต่ำๆให้คนอื่นเสียน้ำใจครับ) ขอบคุณครับ”
“ได้เห็นแค่นี้ก็รู้สึกทราบซึ้งใจอย่างสุดซึ้งแล้วครับ พวกคุณเอาตรรกะอะไรมาพิมพ์แล้วติดประกาศแบบนี้อย่าเผลอมาเที่ยวเชียงใหม่เชียงรายล่ะ
จะต้อนรับขับไล่ให้สาสมแก่ใจกับความมีน้ำใจของเพจคุณอย่างสุดซึ้งเลยก่อนโพสต์ให้คิดด้วยสมองต้องมี คิด,วิเคราะห์,แยกแยะด้วย”

นอกจากนั้นเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ระบุว่าบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ
เนื่องจากคำชะโนดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวภาคเหนืออยากเดินทางไปกราบไหว้ปู่-ย่าพญานาค มีกรุ๊ปทัวร์จองไปเที่ยวช่วงหยุดยาว แต่เมื่อทางคำชะโนดไม่ต้อนรับก็ทำให้รู้สึกแย่
“เมื่อทางคำชะโนดไม่ให้เข้าเที่ยวอย่างนี้ ทางผมก็เดินทางไปไม่ได้ เราได้แจ้งข่าวไปยังลูกค้าที่จองรถไว้แล้ว พวกเขาก็ไม่ค่อยพอใจที่ถูกห้ามถูกรังเกียจขนาดนี้ เสียความรู้สึกมาก”
แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนือที่ติดเชื้อมาจากฝั่งท่าขี้เหล็กจนทำให้คนในสังคมรู้สึกกลัว แต่ในทางปฏิบัติแล้วมีการป้องกันที่ทำให้ความเสี่ยงลดลงหรือไม่เสี่ยงเลย โดยมองว่าไม่ใช่ทุกคนใน 2 จังหวัดข้างต้นเป็นกลุ่มเสี่ยงกันหมด
ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ทางเพจลงประกาศมติที่ประชุมของจังหวัดอุดรธานี ระบุว่านักท่องเที่ยวทุกจังหวัดสามารถเดินทางมาคำชะโนดได้ตามปกติ
และประกาศล่าสุดในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ระบุว่าขอประทานอภัยต่อป้ายข้อความดังกล่าว จัดทำขึ้นโดยความเข้าใจที่ ‘คลาดเคลื่อน’ ในขณะนั้น และใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม
ชาวเน็ตว่ากันยังไงบ้างหลังมีการขอโทษแล้ว?
“อึ ตึงบะไป ตึงจ๋ำ ก่อนว่าบะกึ้ด เรื่องของมึงเขาเต้อะ ฮาไปไหว้อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ไหว้ครูบาศรีวิชัย ยังจะดีเหลือแหม ตึงโขดแต๊เน้อ โขดบะหาย”
“เชียงใหม่ก็มีพระทันใจวัดดอยคำ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัย ดอยอินทนนท์ ดอยม่อนแจ่ม โอ้ยยยสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆงามๆดีๆอีกมากมาย เชียงใหม่ยินดีต้อนรับครับ”
.
“ตอนแรกก็อยากไป แต่ตอนนี้ ไม่คิดอยากไปแล้ว ตั้งแต่เห็นข่าว ห้ามคนเชียงใหม่ เชียงราย แบบนี้ ปล ผมคนลำปาง คับ”
.
“วันที่ 2 ธันวาคมคุณแม่ไปกับเพื่อนทั้งกลุ่ม 16 คน โดนขอตรวจบัตรประชาชนแล้วพอเห็นเป็นคนเชียงรายก็ไม่ให้เข้า บอกว่านายอำเภอสั่งการลงมา ทั้งๆที่แจ้งไปแล้วว่าทั้งคณะเดินทางออกมาจากจังหวัดตั้งแต่ก่อนมีปัญหาโควิด
คนเชียงรายเชียงใหม่ไม่ใช่ตัวเชื้อโรคนะคะ จะออกประกาศอะไรควรคิดก่อนให้ดีๆค่ะ แบบนี้ใครจะอยากไปท่องเที่ยวจังหวัดคุณอีกคะ รอเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาติอื่นแล้วกันจ้า”
.
“ทางคำชะโนดควรจะประกาศให้ทุกคนเข้าใจใหม่นะคะ เพื่อไม่ให้เสียหายต่อคำชะโนด ตอนนี้ต่างคนต่างเข้าใจผิดไปหมดเเล้ว เเถลงข่าวให้เข้าใจทั่วไทยดีที่สุด”
.
“คนเชียงใหม่ไม่ได้เป็นโควิดทั้งจังหวัดนะคะ อย่าเหมารวม นู้นคนที่ลักลอบมาจากพม่ามากกว่า ขนาดจังหวัดเชียงใหม่ยังต้อนรับคนทุกจังหวัดเลยค่ะ
ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ติดโควิดรับทันที 100,000 ตายได้ 1,000,000 ภาคธุระกิจเอกชนจังหวัดเชียงใหม่พร้อมจ่ายทันที คนเชียงใหม่พร้อมต้อนรับคนทุกจังหวัดค่ะไม่เลือกปฏิบัติ”
.
“ผมไม่มีโปรแกรมจะไปแต่ถึงมีถ้าเจอแบบนี้ผมขอยกเลิกครับ ถ้าคนเชียงใหม่เชียงรายไปพยายามพูดไทยให้ชัดๆนะครับถ้ารู้ว่าสำเนียงคนเหนือคุณอาจถูกมองด้วยสายตาไม่ต้อนรับก็เป็นได้”
.
“ครั้งแรกไปเมื่อ หลายปีก่อน รู้สึกดีกับที่นี่นะ แต่ ไปมาเมื่อปีก่อน กลายเป็น ธุรกิจไปละ ไปรอบล่าสุดนี่ ก็ไม่อยากไปอีกเลย แต่ใครไม่เคยไป ก็ลองซักครั้งก็ได้นะ ไม่ห้าม
แต่คุณจะได้ความรู้สึกแบบว่า มาแค่ให้รู้ว่ามาแล้ว อะ ส่วนตัวชอบอุดรนะ คนนิสัยน่ารักดี ป้าย ที่ประกาศออกมาตอนนั้น คงมาจากคนคิดน้อยแหละ”
.
“ผมไปมาเมื่อวันที่2 ที่ผ่านมา 18 ตน พวกท่านไม่ให้เข้า…ผมเสียโอกาศ ..เดินทางตั้งไกล..นอกจากคำขอโทษแล้วพวกคุณจะชดใช้อย่างไรบ้าง”
.
“ผมยื่นคำขาดออกไปแล้ว ว่าผมจะไม่ไปเหยียบ คำชะโนดอีก เพราะฉะนั้น ถ้าผมได้ไปเยือนจังหวัดอุดร ผมจะไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ในจังหวัดอุดร
ผมจะไม่ไปเหยียบคำชะโนดเด็ดขาด เพื่อนผมที่จังหวัดอุดรก็มีหลายคน แต่คนเชียงรายก็ยินดีต้อนรับพี่น้องคนไทยทุกๆคนครับ”
.
“เป็นถึงคณะกรรมการดูแล แต่เลือกใช้คำที่เหยียดคนไทยด้วยกัน เชียงใหม่และเชียงรายไม่ได้มีผู้ติดเชื้อจากผู้ติดเชื้อด้วยกันนะคะ ผู้ติดเชื้อส่วนมากเดินทางและลักลอบมาจากประเทศเพื่อนบ้านค่ะ เราคนเชียงใหม่ก็ไม่ต้อนรับคนใจแคบแบบคุณเช่นกันค่ะ”
.
“ตื่นตระหนก เกินเหตุ ไม่พิจารณา แยกแยะ ขบวนการคัดกรองทางสาธารณะสุข ก็มี อยู่ โตๆกันละ ท่าน
ตราบใดบนเครื่องบิน นั่งชิดกว่า ใกล้กว่า ยังให้เดินทางร่วมกันได้ ก็สามารถ ไปได้ ค่ะ ดูมาตราการ เค้าดีกว่า ทำขนาดนั้น ทำไมไม่นำไปเป็นกรณีศึกษาตัวอย่าง ว่าต้องทำอย่างไร อยู่ร่วมกันได้ อย่างปลอดภัย”
ที่มา: @KhamchanodOfficial, mgronline
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น