เชื่อว่าทุกคนต้องมีช่วงเวลาที่ไม่ค่อยเป็นใจในชีวิตอย่างแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่เรื่องเหนื่อยและเรื่องเครียดๆ เต็มไปหมด
เช่นเดียวกับนักแสดงสาวอย่าง Katie Holmes ที่ช่วงหนึ่งเธอต้องเผชิญกับความเครียดในชีวิตจนทำให้วันทั้งวันของเธอมันเหนื่อยล้าไปเสียหมด
Katie เป็นนักแสดงสาวที่มีผลงานภาพยนตร์ต่างๆ มากมาย อย่างเช่น Jack and Jill (2011) Batman Begins (2005) และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่หลายๆ คนอาจจะรู้จักเธอในนามภรรยาเก่าของนักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่าง Tom Cruise ค่ะ ที่ทั้งคู่เริ่มเดตกันในปี 2005 และตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2006
แต่แล้วความรักของทั้งคู่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันค่ะ เมื่อ Katie ออกมายื่นเอกสารการหย่าในปี 2012 ซึ่งช่วงนั้นเหมือนเป็นช่วงเวลาอันตึงเครียดของเธอเลยก็ว่าได้
หลังจากผ่านมานานกว่า 8 ปี Katie ได้ออกมาเล่าถึงช่วงเวลานั้นให้กับทางนิตยสาร InStyle บอกเลยค่ะว่าเรื่องของเธอมันอาจจะทำให้หลายคนมีกำลังใจในการต่อสู้กับความเครียดก็เป็นได้
ในตอนนั้น Katie และ Tom มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนคือน้อง Suri Cruise ค่ะ ช่วงนั้น Katie เหนื่อยทั้งกับงานและเอกสารการหย่าเอามากๆ แถมยังต้องเลี้ยงลูกสาวตัวน้อยอายุ 6 ขวบอีกต่างหาก
“ช่วงนั้นมันค่อนข้างตึงๆ มากค่ะ มีหลายคนจับตามองและฉันยังต้องดูแลลูกอีก”
แน่นอนว่าการที่เป็นดาราและเจอข่าวหย่าแบบสายฟ้าแล่บแบบนี้ สื่อมวลชนและคนรอบข้างต้องให้ความสนใจเป็นเรื่องธรรมดา Katie เล่าต่อด้วยรอยยิ้มว่า
“เราเลยมีช่วงเวลาที่สนุกๆ ออกสื่ออยู่ตลอดค่ะ
มีคนมากมายที่ฉันไม่รู้จักเริ่มเข้ามาเป็นเพื่อนและช่วยเหลือฉัน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันหลงรักเมืองนี้ (นิวยอร์ก)
และก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้ฉันร้องไห้ออกมา ตอนนั้น Suri น่าจะ 6 หรือ 7 ขวบและเธอก็เล่นอยู่บ้านเพื่อน ขณะที่ฉันไปดูบัลเล่ต์ที่ Lincoln Center
ตอนประมาณ 4 ทุ่มเธอก็โทรมาบอกว่า ‘แม่จ๋า มารับหนูหน่อยได้ไหม?’ ฉันเลยนั่งแท็กซี่ไปรับเธอ
เธอดูเหนื่อยมากและหลับไประหว่างทางกลับบ้าน และพอถึงหน้าบ้านของพวกเรา คนขับรถแท็กซี่ก็เปิดประตูให้และช่วยอุ้มเธอไปส่งในบ้านโดยที่ไม่ปลุกเธอเลย
เขาน่ารักมากค่ะ
หลังจากนั้น Katie ก็ร้องไห้ออกมาเลยล่ะค่ะ เรียกได้ว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของคุณพี่แท็กซี่คนนี้สร้างความประทับใจและทำให้วันเหนื่อยๆ ของเธอสดใสขึ้นมาทันตา
แบบนี้แหละค่ะที่เขาเรียกว่า กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ จากคนรอบข้างมันช่วยผลักดันให้เราใช้ชีวิตต่อด้วยรอยยิ้มจริงๆ
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: instyle
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น