ทาสแมวหลายๆ คน อาจจะเคยประสบกับปัญหาเมื่อต้องเลือกระหว่างลูกน้อยกับแมว โดยส่วนใหญ่มาจากการกดดันของคนรอบข้างที่ไม่เห็นด้วยกับการเลี้ยงลูกกับแมว
เช่นเดียวกับคุณงาม เธอเป็นทาสแมวและเลี้ยงแมวก่อนที่จะมีลูก โดยแมวของเธอมี 2 ตัว คือ กระท้อนกับลอยแก้ว
ระหว่างที่คุณงามตั้งท้องลูกคนแรก กระท้อนกับลอยแก้วอยู่เคียงข้างเธอ นอนกับเธอและกอดเธอตลอด ดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นห่วงเธอมากกว่าตอนที่ยังไม่ท้องซะอีก ราวกับรู้ว่ามีชีวิตน้อยๆ อยู่ในท้องของเธอ
ด้วยความที่คุณงามรักน้องแมวเหมือนลูกแท้ๆ ดังนั้น เธอไม่เคยคิดเรื่องที่จะแยกพวกมันไปที่อื่นเลย หากลูกเกิดมา แต่ตั้งใจที่จะให้ลูกโตมากับแมว
โดยปกติแล้วแม่ทุกคนจะเห่อลูกคนแรกมากๆ คุณงามก็เช่นกัน เมื่อน้องแอนฟิลด์เกิด เธอตื่นเต้นมาก แต่แม้จะตื่นเต้นแค่ไหน เธอก็ไม่เคยลืมกระท้อนกับลอยแก้วเลย
ช่วงแรกที่คุณงามพาน้องแอนฟิลด์กลับมาอยู่บ้าน เธอแอบกังวลเล็กน้อยว่าแมวจะกัดหรือข่วนลูก ดังนั้น เมื่อเธอแนะนำน้องแมวให้รู้จักกับลูกน้อย เธอจึงคอยระวังและจับตาดูพวกมันอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ คุณงามกลัวว่าลูกจะเป็นภูมิแพ้ จึงไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้แมว แต่พวกแมวเนี่ยสิ ยืนกรานจะอยู่กับน้องและจะนอนกับเขาตลอดเวลา
โชดคีที่น้องแอนฟิลด์แข็งแรงมากๆ เขาไม่แพ้แมว และดูเหมือนเขาจะมีความสุขเมื่อพี่เหมียวมาอยู่ใกล้ๆ
เวลาผ่านไป คุณงามเริ่มเห็นผลของการปล่อยให้ลูกโตมากับแมว คือ เขามีพัฒนาการไวขึ้น เขามีความรัก ความเมตตาต่อสัตว์ ที่ไม่ใช่พี่กระท้อนกับลอยแก้ว แต่กับสัตว์ตัวอื่นๆ น้องก็ชอบเหมือนกัน
นอกจากกระท้อนกับลอยแก้วแล้ว ที่บ้านยังเลี้ยงหมาด้วย ซึ่งน้องแอนฟิลด์เข้ากับสัตว์ในบ้านได้ทุกตัว เวลากินอะไร เธอจะแบ่งให้พวกมันด้วยเสมอ
แม้จะเป็นลูกคนเดียว แต่การโตมากับแมวและหมาทำให้น้องแอนฟิลด์ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเลย เพราะเขามีหมา-แมวเป็นทั้งพี่และเพื่อน
ทุกเช้าที่น้องแอนฟิลด์ตื่นนอน เขาจะไปหาพี่เหมียวก่อนเป็นอันดับแรก เห็นได้ชัดว่าพวกเขารักและสนิทกันมากแค่ไหน ด้านพี่เหมียวเองก็เป็นพี่เลี้ยงที่ดีให้น้อง โดยจะช่วยเลี้ยงน้องตอนที่พ่อแม่ต้องการเวลาพักผ่อนบ้าง
ใครที่เลี้ยงแมวจะรู้ดีว่าปกติแมวจะหวงบ้าน หวงทาสมาก แต่ด้วยความที่คุณงามรักลูกกับแมวอย่างเท่าเทียมกันและปฏิบัติกับพวกมันเหมือนลูก ดังนั้น กระท้อนและลอยแก้วจึงไม่เคยรู้สึกว่าถูกน้องแย่งความรักไป
คุณแม่บอกว่ากระท้อนกับลอยแก้วเป็นพี่ที่ดีมากๆ พวกมันอดทนกับความไร้เดียงสาของน้อง บางทีแอนฟิลด์อาจจะเล่นรุนแรงกับพวกมันบ้าง แต่พวกมันก็ไม่เคยโต้ตอบเลย เพราะเข้าใจในความเป็นเด็กของน้อง
สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ภูมิใจมากๆ พวกเขาเชื่อว่าเมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะได้รับบทเรียนหลายๆ อย่างจากแมว ทั้งความรับผิดชอบและความมีเมตตาต่อผู้อื่น
สำหรับใครที่คิดจะเลี้ยงลูกกับแมว ต้องมั่นใจว่าได้ฉีดวัคซีนให้แมวครบทุกเข็มแล้ว รวมทั้งตัดเล็บแมวอย่างสม่ำเสมอ รักษาความสะอาด และคอยจับตาดูเวลาที่ลูกเข้าใกล้แมว
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณงามอยากบอกคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นลูกเล่นรุนแรงกับแมว แม้จะเป็นความไร้เดียงสาของเด็ก แต่ต้องดุลูกทุกครั้ง เพื่อให้เขาเรียนรู้ว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้
ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ของคุณงามเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกกับแมว ซึ่งเธอได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเด็กกับสัตว์เลี้ยงสามารถอยู่ร่วมกันได้ ดังนั้นจึงหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ
ส่องไรอะ ขอฟิลด์ส่องด้วยสิ
อดทนไว้ เดี๋ยวมันโต มันก็ต้องเป็นทาสรับใช้เรา
รักน้องแค่ไหน ให้คลิปนี้เล่าเรื่อง
https://www.facebook.com/100015200657383/videos/977807399402606/?q=Boonrasri%20Pukprajob
รีบโตสิไอ้หนู จะได้เล่นด้วยกันได้เต็มที่หน่อย
ที่มา Boonrasri Pukprajob
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น