ชีวิตของคนเรานั้นมีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน และการเดินทางไปสู่ความสุขในชีวิตของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนเพียงแค่ขอให้หาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ก็คือความสำเร็จแล้ว
หากคุณกำลังรู้สึกท้อต้องการกำลังใจในการใช้ชีวิต จึงอยากจะยกตัวอย่างจากชายไร้บ้านคนนี้จากชีวิตที่อยู่ในจุดตกต่ำที่สุด สามารถผลิกชีวิตของตัวเองเพื่อไปตามทางที่ตัวเองอยากจะเป็น
Lawrence คือชายไร้บ้านผู้ใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอน เขามีความฝันอยากจะทำงานในอุตสาหกรรมการบินมาตลอด ซึ่งการจุดประกายความฝันเล็กๆ นั้นเกิดขึ้นจากการไปดูโชว์บินต่างๆ ในวัยเด็ก
แต่ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงวัยเรียน บวกกับไม่มีคุณพ่อที่จะคอยเป็นแรงบันดาลใจผลักดันไปสู่ความฝัน ชีวิตของเขาจึงเริ่มเข้าสู่วังวงแห่งความตกต่ำ
Lawrence เติบโตมาท่ามกลางครอบครัวแตกหักโดยที่ไม่มีคุณพ่ออยู่เคียงข้าง รวมไปถึงมีปัญหาด้านการเรียนในโรงเรียน ไม่สามารถโฟกัสกับเนื้อหาได้จึงเกิดปัญหาความเครียดตามมา
เนื่องจากระบบโรงเรียนที่เป็นอยู่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ใดๆ นักเรียนในวัยเดียวกันก็ไม่ขยันตั้งใจเรียน ครูก็ไม่ค่อยสนใจจะติดตามนักเรียนเท่าไหร่
นั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลทางด้านการเงินในครอบครัว รวมถึงหมดกำลังใจที่จะเรียนหนังสือต่อ
Lawrence เบนเข็มทิศชีวิตไปโฟกัสกับการตามฝันเป็นวิศวกรเครื่องบิน แต่แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายกับสถานะที่เขาเป็นอยู่ จึงลงเอยด้วยการทำงานเล็กๆ ได้เงินน้อยๆ แทน
จนเมื่อ 7 ปีก่อน บ้านที่เขากำลังเช่าอยู่หมดสัญญา เขาไม่มีเงินเช่าต่อและไม่มีที่จะไปแล้ว นั่นหมายความเขาต้องระหกระเหินไปหาที่อยู่ใหม่ แต่จะกลับไปอยู่บ้านก็คงไม่มีความสุข จนในที่สุดแล้วต้องดิ้นรนไปตามยถากรรมของตัวเองกลายเป็นคนไร้บ้าน
“สำหรับผมแล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การหางาน แต่เป็นเรื่องของการหาบางสิ่งที่มั่นคง ผมกลายมาเป็นคนทำความสะอาดสนามบิน
แต่มันเป็นงานที่ทำเหมือนเอาชีวิตรอดไปวันๆ ไม่ได้เป็นงานที่ทำแล้วมีความสุขเลย
ประสบการณ์ที่ผ่านมาสั่งสมความเครียดในตัวผม รายได้ก็น้อยไม่พอกิน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
บางครั้งผมก็อาศัยนอนอยู่ในสนามบินที่ทำงานอยู่ เพื่อที่จะได้ตื่นไปทำงานทันเวลา
สุดท้ายแล้วผมไม่เหลือใครอีกในชีวิต และผมต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง”
“ผมพอจะมีเงินจ่ายค่าห้องพักอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็หาที่นอนในสนามบินหรือหาที่นอนข้างถนนเอา
เพราะด้วยงานแบบนี้บวกกับไม่มีบ้านอยู่เป็นอะไรที่สาหัสมาก ผมต้องล้มเลิกการใช้ชีวิตแบบนี้ให้ได้”
เมื่อ Lawrence รู้แล้วว่าเขาต้องเพิ่มพูนทักษะให้กับตัวเอง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะนอกจากต้องใช้ทั้งเงินทั้งเวลาแล้ว ความมั่นคงในชีวิตก็ต้องมีด้วย ซึ่งมันเป็นสามสิ่งที่เขาไม่มีติดตัวเลย
จนในที่สุดสิ่งที่เขาตามหาก็มาถึง เมื่อได้พบกับ Beam องค์กรช่วยเหลือคนไร้บ้านที่จะช่วยหางานและฝึกงานให้กับพวกเขา หยิบยื่นโอกาสในการฝึกงานเป็นวิศวกรรางรถไฟให้กับ Lawrence
การได้ฝึกทำงานซ่อมรางรถไฟนี้ ถือเป็นขั้นแรกในการตามฝันของเขาเลยล่ะ เพราะหลังจากได้ประสบการณ์ตรงนี้ Lawrence จะไปสอบทักษะการซ่อมรางรถไฟระดับ 3 เพื่อปูทางไปสู่การย้ายงานเป็นวิศวกรเครื่องบิน
นอกจากนั้นแล้วองค์กร Beam ยังช่วยระดมเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายไปเรียนทักษะทางด้านอื่นๆ ค่าคอมพิวเตอร์ ค่าตรวจสุขภาพ ค่าเดินทางต่างๆ อีกมากมาย ทำให้ Lawrence สามารถตั้งหลักให้ตัวเองได้และออกไปทำตามความฝันที่พยายามไขว่คว้ามาตลอด
“ผมคิดว่าประสบการณ์แย่ๆ กับการขาดโอกาสดีๆ ในชีวิตเหล่านี้ทำให้ผมไม่อยากล้มเหลวอีก
ลูกๆ ของผมก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ผมโฟกัสกับการกลับยืนด้วยลำแข้งของตัวเองอีกครั้ง
นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเข้ารับการฝึกอบรมต่างๆ จะได้มีงานทำและเป็นคนดีที่ดีขึ้น”
“ปัจจุบันผมทำงานเป็นวิศวกรรางรถไฟ ตอนนี้ชีวิตกำลังจะเปลี่ยนไป ผมเริ่มเช่าบ้านได้แล้ว และเมื่อสอบผ่านเป็นวิศวกรรางรถไฟขั้นสูงได้เมื่อไหร่ ผมจะวิ่งไปตามทางแห่งความฝันครับ”
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น