#โรคลายม์ #ผู้ป่วยรายแรกในไทย
พวกเราคงอาจไม่เคยได้ยินชื่อของ “โรคลายม์” กันมาก่อน เพราะโรคนี้ “ไม่เคยมีระบุว่าพบในประเทศไทย”
แต่ล่าสุด (14 ก.ค. 2562) “นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ได้ออกมาพูดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พบผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าว “รายแรกในไทย” !!
ก่อนอื่น เราลองไปทำความรู้จักกับโรคนี้กันคร่าวๆ ดูก่อนดีกว่า..
“โรคลายม์” (Lyme Disease) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Borrelia ซึ่งมีตัว “เห็บ” เป็นพาหะนำโรค
โดยเห็บนั้นจะไปกินเลือดของ “ตัวกักตุนโรค” อื่นๆ อย่างเช่น สุนัข ม้า กวาง วัว ควาย หรือหนู ก่อนที่จะนำเชื้อโรคมาสู่คนได้จากการที่มันหันมาเกาะกินเลือดของเรา
อาการเบื้องต้นคือเป็นไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ เจ็บคอ การมองเห็นไม่ชัดเจน เมื่อยล้า และอาจมีผื่นแดง
แต่หากเวลาผ่านไปอาจเกิดอาการอื่นๆ เพิ่มขึ้นมา เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ มีอาการทางสมอง ปวดศีรษะรุนแรง จนอาจถึงขั้น “ความจำเสื่อม”
โรคลายม์นั้นจะพบได้ในแถบยุโรป อเมริกาเหนือ ประเทศจีน ญี่ปุ่น รวมถึง “ประเทศตุรกี”
เราลองมาพูดถึงกรณี “ผู้ป่วยรายแรกของไทย” ที่ นพ.มนูญ ได้นำมาเล่าสู่กันฟังว่า เธอเป็นผู้หญิงอายุ 47 ปี เพิ่งกลับจากการไปเที่ยวในประเทศตุรกีมานาน 8 วัน
หลังเธอกลับมาไทย ผ่านไปได้ 17 วัน เธอก็เริ่มมีอาการเบื้องต้นอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ เว้นแต่ว่าเธอนั้นไม่มีผื่นขึ้นตามตัวแต่อย่างใด และเริ่มนอนรักษาในโรงพยาบาล
จากการตรวจเบื้องต้น ไม่พบไข้หวัดใหญ่ หรือไข้เลือดออก ปอดปกติดี หลังจากนั้น 4 วันก็มีอาการหัวใจเต้นช้า อยู่ในอาการโคม่า หมดสติ ใบหน้าและแขนขวามีการชักกระตุก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
ทางทีมแพทย์จึงทำการตรวจสอบคอมพิวเตอร์สมอง CT Brain ก็ยังพบว่าปกติ ทำคลื่นไฟฟ้าสมอง EEG พบว่ามีสัญญาณของโรคลมชัก และได้ส่งเลือดกับน้ำไขสันหลังตรวจหาแบคทีเรียทั่วไปต่างๆ
ผลการตรวจหาแบคทีเรียทั่วไปนั้นเป็นปกติ ซึ่งระหว่างนั้นแพทย์ยังคงให้ยากันชักต่อเนื่อง และยาปฏิชีวนะเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่จะทำการเจาะคอเพราะใส่เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลานาน
จนกระทั่งหลังจากที่เธอกลับมาจากตุรกีได้ 40 วัน อาการของผู้ป่วยค่อยๆ ดีขึ้น หายใจได้เอง ตื่นมามีสติดี รู้เรื่อง
เมื่อแพทย์ได้นำเลือดตรวจหาโรคลายม์ ผลออกมาว่าเธอมีอาการของโรคดังกล่าว และได้ทำการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI พบความผิดปกติที่สมองส่วนหน้าด้านซ้าย
อย่างไรก็ตาม อาการของเธอก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากว่าได้รับยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องตั้งแต่แรก แต่เธอก็ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลนานถึง 2 เดือน และหลังจากนั้นอีก 5 เดือนถึงจะกลับไปทำงานได้
แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นคือเธอ “จำเหตุการณ์ย้อนหลังไม่ได้” จำไม่ได้ว่าเคยไปเที่ยวประเทศตุรกี จำไม่ได้ว่าเคยป่วยหนักนอนโรงพยาบาล
โดยแพทย์คาดการณ์ว่าเธอน่าจะติดเชื้อมาจากตอนที่ไปเที่ยวประเทศตุรกี
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์
https://www.cdc.gov/lyme/index.html
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น