CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

งานวิจัยพบ ไดโนเสาร์ Majungasaurus มีการงอกฟันใหม่อย่างรวดเร็ว ราวฉลามในปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 70 ล้านปีก่อน ในช่วงเวลา 5 ล้านปีสุดท้ายก่อนที่ไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ไปจากเหตุอุกกาบาตพุ่งชนโลก เรายังคงมีไดโนเสาร์ยอดนักล่าแห่งยุคอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งมีความเร็วในการงอกฟันใหม่เหมือนกับฉลามในปัจจุบันไม่มีผิด

 

 

ยอดนักล่าตัวที่ว่านี้ มีนามว่า “Majungasaurus” ไดโนเสาร์เดินสองขา กลุ่มแทบจะสุดท้ายบนโลกยุคครีเทเชียส ซึ่งในอดีตเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่แถบมาดากัสการ์  และมีจุดเด่นอยู่ที่ฟันที่แหลมคม แต่กลับไม่ทนทานของมัน

 

Majungasaurus สองตัวระหว่างการออกล่า

 

ฟันของไดโนเสาร์ตัวนี้ เด่นมากจนนักวิทยาศาสตร์และนักบรรพชีวินวิทยาของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงนำฟอสซิลส่วนกรามล่างของมันไปทำซีทีสแกนดู และพบว่า…

นอกจากฟันที่แหลมคมแล้ว ไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้ ยังมีความสามารถในการงอกฟันไว้ลึกลงไปในกระดูกด้วย ซึ่งระบบนี้เองทำให้พวกมันสามารถงอกฟันได้ใหม่ทุกๆ 2 เดือน ราวกับเป็นฉลามหรือสัตว์กินพืชบางชนิด และเร็วกว่าไดโนเสาร์อื่นๆ 2-14 เท่าแล้วแต่สายพันธุ์เลย

 

 

อ้างอิงจากนักวิจัย พวกเขาตั้งข้อสันนิษฐานกันว่าความสามารถในรูปแบบนี้ของ Majungasaurus น่าจะมาจากการมีพวกมันมักใช้ฟันของมันแทะไปบนกระดูก ซึ่งทำให้ฟันที่คมกริบของมันทื่อเร็ว ดังนั้น มันจึงวิวัฒนาการฟันให้งอกขึ้นมาใหม่แทนชุดเก่า

นี่นับว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมากเพราะการที่ ไดโนเสาร์ Majungasaurus ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อมีการวิวัฒนาการแบบ ไดโนเสาร์กินพืชเช่นนี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ว่าไดโนเสาร์ในช่วงปลายชนิดอื่นๆ เองก็อาจจะมีการวิวัฒนาการงอกฟันให้เร็วขึ้นแบบนี้เช่นกัน ไม่ว่าพวกมันจะกินพืชหรือกินเนื้อ

 

ภาพเปรียบเทียบฟันของไดโนเสาร์ Majungasaurus (ขวา) กับไดโนเสาร์ที่เก่าแก่กว่าอย่าง Allosaurus (ซ้าย)

 

“โครงการนี้ช่วยให้เราทราบถึงชีววิทยาอีกแง่มุมหนึ่งของ Majungasaurus  และไดโนเสาร์กินสัตว์อื่น ๆ โดยทั่วไปได้เลยก็ว่าได้” คุณ Patrick O’Connor หนึ่งในนักเขียนของงานวิจัยกล่าว

และหากเพื่อนๆ อยากทราบเรื่องราวเพิ่มเติมของไดโนเสาร์ตัวนี้ เพื่อนๆ ก็สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลงานวิจัยกันโดยตรงได้เลย ในวารสาร PLOS ONE

 

ที่มา PLOS ONE, foxnews และ smithsonianmag


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น