ชีวิตที่ไม่มีสมาร์ทโฟนในยุคที่เทคโนโลยีถูกพัฒนามารองรับชีวิตแทบทุกด้าน ก็กลายมาเป็นอีกเงื่อนไขที่ทำให้ชีวิตยากขึ้นไปอีก เพราะด้วยการที่มีโรคระบาดอยู่และจะต้องมีการติดตามข้อมูลด้านสุขภาพและระบุตัวตนผ่านสมาร์ทโฟนเช่นนี้ ชายคนหนึ่งจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งตัวเอง
คุณลุงชาวจีนแซ่จี๋ ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนในการยืนยันสถานะสุขภาพของเขา แต่เขามีต้องการไปหาครอบครัวในต่างจังหวัดจึงต้องเลือกที่จะเดินกลับบ้านด้วยระยะทางที่ไกลเกินกว่าจะคาดคิดได้
เพราะหลังจากที่ไวรัสโคโรนาระบาด ใครก็ตามที่จะใช้บริการขนส่งมวลชนในจีนจำเป็นต้องมีคิวอาร์โค้ดแสดงผลสุขภาพผ่านแอปบนสมาร์ทโฟน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ติดเชื้อ COVID-19 หากไม่มีจะไม่รับอนุญาตให้ขึ้น
ด้วยความต้องการที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศชีวิต ชายวัยกลางคนอย่างเขาในมณฑลอานฮุยจึงตัดสินใจในช่วงต้นเดือนมิถุนายนว่าจะไปอาศัยอยู่กับญาติในมณฑลเจ้อเจียง แต่เสียอยู่ตรงที่เขาไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่สามารถขึ้นรถทัวร์กลับได้
เขาจึงตัดสินใจ ‘เดิน’ จากจุดที่เขาอยู่ไปจนถึงปลายทาง ซึ่งหลังจากผ่านมาได้ประมาณครึ่งเดือน ก็มีคนพบคุณลุงอยู่ข้างถนนกับคนขับรถบรรทุก ซึ่งหลังจากที่ได้รู้เรื่องราวแล้วคนขับรถบรรทุกจึงขอเลี้ยงข้าวและอาสาจะพาขับไปส่งถึงปลายทาง
อย่างไรก็ดีคุณลุงปฏิเสธข้อเสนอนั้น อธิบายให้ฟังว่าเขาไม่ได้ต้องการให้เป็นภาระใคร เขายังคงสบายดีอาศัยนอนพักกลางทางในสวนสาธารณะตอนกลางคืน และจะเดินต่อไปเรื่อยๆ ในวันถัดไป
เมื่อไม่มีใครสามารถโน้มน้าวใจลุงได้ คนขับรถบรรทุกจึงนำเรื่องราวของลุงมาโพสต์ลงโลกออนไลน์ และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงครอบครัวของลุงในมณฑลอานฮุยด้วย และออกไปรับลุงภายหลังจากทราบเรื่อง
การเดินของลุงที่เริ่มจากมณฑลอานฮุยไปยังจุดหมายปลายทาง ณ เมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง เป็นระยะรวมทั้งหมดเกินกว่า 950 กิโลเมตร
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: sina, shanghaiist
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น