หลังจากที่ห่างหายจากสังเวียนไปนาน ล่าสุดเขาก็ได้กลับมาอีกครั้งแล้วกับ Conor McGregor นักสู้ MMA (ศิลปะการต่อสู้แบบผสม) วัย 31 ปี
Conor McGregor
ต่อให้บางคนอาจไม่ใช่แฟนกีฬาการต่อสู้บนสังเวียน UFC แต่ก็อาจต้องเคยได้ยินชื่อของนักสู้ชาวไอริชคนนี้กันมาก่อน เพราะด้วยวีรกรรมที่เขาเคยสร้างไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้
ทั้งเรื่องที่ McGregor ได้แชมป์ การวาดลวดลายลีลาบนสังเวียน น็อกคู่ต่อสู้ในหมัดเดียว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของความห่าม ความเลือดร้อน สิ่งเหล่านั้นของเขาล้วนเคยถูกพูดถึงบนพาดหัวข่าวมาหมดแล้ว
แต่ทว่าก่อนหน้านี้ เขาก็ได้ห่างหายจากสังเวียน UFC ไปนานถึง 15 เดือน นับตั้งแต่ที่พ่ายแพ้ให้กับนักสู้ชาวรัสเซีย Khabib Nurmagomedov จนเกิดเป็นเหตุจลาจลครั้งใหญ่ในปี 2018
อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: สรุปเหตุจลาจล McGregor พ่ายแพ้ Khabib ถูกตีซ้ำ ปีนไปมีเรื่องด้านนอก เข็มขัดแชมป์ไร้คนครอง
ถึงอย่างนั้น ล่าสุด McGregor ก็กลับขึ้นมายืนหยัดบนสังเวียนอีกครั้งในวันที่ 18 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา ในการปะทะกับ Donald Cerrone นักสู้ชาวอเมริกันที่รู้จักกันในฉายา Cowboy
ซึ่งแมตช์หวนคืนสู่สังเวียนนี้เองที่ McGregor ก็ได้ฝากอีกหนึ่งช่วงเวลาความมันส์เอาไว้ เมื่อเขาสามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ในยกแรก หลังจากที่เพิ่งผ่านไปเพียง 40 วินาที
ชมไฮไลท์การต่อสู้ในครั้งนี้
และอีกหนึ่งอย่างที่ยิ่งใหญ่มหาศาลไม่แพ้ชัยชนะของเขาก็คือรายได้ที่เขาได้รับจากการขึ้นสังเวียนในครั้งนี้
เพราะจากรายงานของสื่อต่างประเทศหลายแห่ง กล่าวว่าเม็ดเงินที่สะพัดในการแข่งขันน่าจะเป็นไปตามที่ McGregor ได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้วว่า…
“ในการต่อสู้ครั้งนี้ ผมจะต้องได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมดแล้วสูงถึง 60 ล้านปอนด์ (ราว 2,371 ล้านบาท)”
ค่าตอบแทนนั้นไม่ได้มีแค่ส่วนที่ได้จาก UFC แต่ยังมีในส่วนอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงเงินส่วนแบ่งจากผู้ที่ซื้อสิทธิ์ในการรับชมการถ่ายทอดสดของหลากหลายผู้ให้บริการในแต่ละประเทศ (รวมหมดแล้วมันจึงเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยจริงๆ)
และเนื่องจากว่าเขาสามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ใน 40 วินาที เมื่อลองมาคำนวณดู นั่นก็เท่ากับเขามีรายได้จากการแข่งขันที่ผ่านมาสูงถึง ‘วินาทีละ 59 ล้านบาท’ โอ้วแม่เจ้าโว๊ยยยย!!
นอกจากจะชนะได้อย่างสวยงามแล้ว รายได้ที่เขาน่าจะได้รับจากแมตช์นี้ก็เรียกว่าคุ้มค่าเอามากๆ สำหรับการเปิดตัวหวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้งของนักสู้หนุ่มไอริชคนนี้
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: LadBible , GiveMeSport , TheSun
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น